Skip to main content

ADA(Cardano) เงินดิจิตอลในอนาคต?

Submitted by krishrong on

*คำเตือน บทความนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวแบบชาวบ้านๆ ผ่านมุมมองของผู้เขียน ที่มีความรู้เพียงน้อยนิดมากๆเกี่ยวกับเงินดิจิตอล และ เป็นเพียงแผนทางการเงินโดยส่วนตัวของผู้เขียนเอง ที่เขียนไว้ให้ตัวเองไม่ลืม ถ้าจะลงทุนอะไร ให้คำนึงถึงโอกาสขาดทุนเป็นหลัก เช่น ลงทุนตอนนี้ เกิดราคาตกเหลือเพียง 50% ในสัปดาห์ถัดมา จำนวนเงินที่หายไปครึ่งหนึ่ง ต้องไม่ทำให้เราเกิดความลำบากในการใช้ชีวิต เป็นต้น

โดยส่วนตัวก็ไม่ค่อยไว้ใจเงิน Fiat แต่กลับกันก็ไม่ชอบเงินดิจิตอลหลายๆสกุลเงิน เพราะ รู้สึกว่าไม่ตอบโจทย์ จากที่ยังมีปัญหามากมายอยู่

โดยความเห็นส่วนตัว ปัญหาของ เงินดิจิตอลที่มีอยู่ในปัจจุบัน คือ

  • ใช้พลังงานไฟฟ้ามากเกินไป เช่น Bitcoin
  • ใช้ทรัพยากรการประมวลผลมาก ใช้ประโยชน์จริงได้น้อย เช่น การขุด bitcoin เป็นต้น ซึ่งถือว่าไม่เหมาะสมกับหลักการเขียนโปรแกรม ที่ควรพยายาม ทำให้ใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด แต่ทำงานได้เร็ว มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด
  • ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมสูงเกินไป(จากการที่กินทรัพยากรไปมาก ทำให้ต้นทุนมากขึ้น ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น)
  • ใช้งานยาก ขนาดเราเองโดยส่วนตัวยังใช้ไม่คล่องเลย ทำให้ไม่ได้ถูกใช้งานจริงอย่างกว้างขวาง(ไม่ mass adoption)

จากมุมมองของเรา เราคิดว่า ADA น่าจะเป็นสกุลเงินดิจิตอลที่ จะพัฒนาจนสามารถแก้ปัญหาข้างต้นของเงินดิจิตอลได้  และ มีโอกาสได้รับการใช้งานอย่างกว้างขวาง(mass adoption) ในอนาคต เพราะ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ใช่เพียงการแก้บัค หรือ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ แบบการพัฒนาโปรแกรมทั่วๆไป แต่เป็นในเชิงงานวิจัยศึกษาจริงๆ เพื่อสร้างองค์ความรู้ เพื่อพัฒนาเป็นเงินดิจิตอลที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนขึ้นมา

ช่วงที่ผ่านมามีข่าวอยู่บ่อยๆ เรื่อง การที่ ADA เป็นสกุลเงินเดียว ที่มีการพัฒนาในด้านงานวิจัยที่มากที่สุด ในหมู่สกุลเงินดิจิตอล, มีการพัฒนาเพื่อใช้ประโยชน์ด้านการศึกษา ซึ่งไม่เหมือนสกุลเงินอื่น ที่เน้นแต่ด้านการเงิน การลงทุน ที่แฝงไว้ด้วยกำไรของผู้พัฒนา, การพัฒนาระบบ Social network ของชุมชน ADA เอง(Cardano spot) โดยเราคิดว่าน่าจะมีการต่อยอดไปเป็น super app ในอนาคต ซึ่งจะทำให้คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและใช้ได้จริงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามสร้างสิ่งที่มีประโยชน์กับโลกอย่างแท้จริง

ในเรื่องความโปร่งใส ที่เหรียญคริปโตส่วนใหญ่ โฆษณากันว่าจุดเด่น คือ ความกระจายศูนย์(Decentalized), ความโปร่งใส(Transparency) ตรวจสอบได้ทุกอย่าง เพราะ เปิดเผยหมด เท่าที่ไปดูข้อมูลของเหรียญที่มี Market cap สูงสุด 10 อันดับแรก พบว่า

  • เกือบทุกเหรียญมีลักษณะเดียวกัน คือ มีผู้ถือครองรายใหญ่(Rich holder) แบบนับจำนวนคนได้ ที่กินส่วนแบ่งของมูลค่าตลาดเกินครึ่ง หมายความว่า กลุ่มคนไม่กี่คนเหล่านี้ สามารถกำหนดทิศทางตลาดของเหรียญเหล่านั้นได้ทั้งหมด
    • ที่แย่กว่านั้นคือ บางเหรียญต่อให้รายย่อยทุกคนรวมกัน ยังไม่เท่าคนเหล่านี้แค่ไม่กี่คนเลย ซึ่งมันไม่ใช่ลักษณะของเงินที่ดีแม้แต่น้อย เพราะ อย่างมากที่สุด ผู้มีอิทธิพลทางการเงิน ไม่ควรมีทรัพย์สินรวมกัน เกิน 10% ของตลาดทั้งหมด
    • ถ้าให้เดาคนที่ครองส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่ ก็คือผู้สร้างนี้แหละ
    • ที่คอยโฆษณาว่า อำนาจกระจายศูนย์ และมีความโปร่งใส ไม่มีเบื้องหลังแอบแฝง อาจจริงแค่ในเชิงเทคโนโลยี แต่ไม่จริงในทางปฏิบัติ แสดงถึง การมีวัตถุประสงค์แอบแฝง ไม่โปร่งใส ไร้ความน่าเชื่อถือสิ้นดี
    • ตรวจสอบข้อมูลสัดส่วนผู้ถือครอง ได้จากเว็บ Coincarp.com โดยเข้าไปดูข้อมูลแต่ละเหรียญ แล้วเลือกแท็บ Rich List จะมีข้อมูลสัดส่วนผู้ถือครอง 100 อันดับแรก ที่ตารางด้านขวา ว่ากินส่วนแบ่งตลาดไปเท่าไหร่
    • รายชื่อเหรียญ ที่มีลักษณะดังกล่าว ที่ผู้ถือครอง 100 อันดับแรก กินส่วนแบ่งที่เยอะมาก ได้แก่ Ethereum 49.50%, Tether 88.10%, Binance Coin(BNB) 82.07%, USD Coin(USDC) 76.92%, OKB 24.60%(Top 10 holder), Dogecoin 66.72% จริงๆ มีเหรียญอื่นๆอีกมาก ที่มีลักษณะดังกล่าว แทบจะ เกือบทั้งหมดเลยก็ว่าได้
  • แต่ก็มี บางเหรียญ ที่มีสัดส่วนผู้ถือครองค่อนข้างเหมาะสม แสดงถึงความโปร่งใส ค่อนข้างเชื่อถือได้ เรียงตามลำดับ คือ 
    1. Bitcoin มีสัดส่วนผู้ถือครอง 100 อันดับแรก เพียง 13.71% ซึ่งนับว่าน้อยที่สุดในบรรดา Cryptocurrency สมกับที่ได้รับฉายาว่าเป็นทองคำดิจิตอล ไม่มีใครมีอิทธิพลกำหนดตลาดได้
    2. Cardano (ADA) มีสัดส่วนผู้ถือครอง 100 อันดับแรก อยู่ที่ 20.79% น้อยเป็นอันดับสอง รองจาก Bitcoin  และถ้าดูข้อมูลเพิ่มเติม ผู้ถือครอง 10 อันดับแรก ของ ADA อยู่ที่ 8.74% เท่านั้น ถ้าเทียบกับ Bitcoin ที่มี Market cap เยอะกว่า 53 เท่า ยังมีผู้ถือครอง 10 อันดับแรก เป็นสัดส่วนถึง 5.40% เลย (ลองคูณดูว่าเป็นตัวเลขเท่าไหร่) แสดงถึง ความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของผู้พัฒนา ADA ที่ดีมากในระดับหนึ่งเลยนะ แต่ก็ยังถูกควบคุมตลาดได้ง่ายกว่า Bitcoin นิดนึง
    3. Solana และ XRP มีสัดส่วนพอๆกัน คือ ผู้ถือครอง 100 อันดับแรกอยู่ ที่ประมาณ 33% ผู้ถือครอง 10 อันดับแรก ประมาณ 9% และ 11% ตามลำดับ
    4. * เพิ่มเติม มีตัวชี้วัดความ decentralized ของแต่ละblockchain อยู่ คือ Edinburgh Decentralization Index ซึ่งพบว่า cardano ได้คะแนนดีที่สุดในทุกๆตัวชี้วัด สูงกว่า Bitcoin อีก!!

โดยส่วนตัว สาเหตุที่เลือก ADA มากกว่า Solona หรือตัวอื่นๆ เพราะ ADA ให้ความเป็น Open-source มากกว่า ขณะที่ตัวอื่นๆ เช่น Solona มักได้รับทุนสนับสนุนจากบริษัทที่เป็นเชิงธุรกิจ(Commercial) ซึ่งมักจะมีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝงได้ หรือ การพัฒนาจะออกแนวสูตรสำเร็จทางธุรกิจไม่มีอะไรแปลกใหม่ ไม่มีอะไรนอกกรอบ

ถ้าเป็น Open-Source software  ที่ดี เช่น Linux, Drupal ฯลฯ เราก็อยากจะสนับสนุนนักพัฒนาอย่างมาก เราก็คิดแบบนั้นเช่นเดียวกันคือ การลงทุนนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนนักพัฒนาบนเครือข่ายของ Cardano ที่พัฒนา ADA ให้สร้างสิ่งที่มีประโยชน์ต่อไป

ในเรื่องของการลงทุน จะซื้อADA ด้วยแนวคิดว่า เป็นการซื้อเงิน ที่ใช้ทำประโยชน์ได้หลายอย่าง และมีการพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆตลอด มาเก็บไว้ ซึ่งคุ้มค่ามาก เพราะ ขนาดเรา ซื้อของที่เป็นวัตถุมา ยังเสื่อมสภาพได้ แต่ซื้อ ADA เหมือนซื้อ software ที่มีฟังก์ชั่นการทำงานมากขึ้น มีประโยชน์มากขึ้นเรื่อยๆ และ อัพเดตฟรีจากนักพัฒนา ตราบใดที่ยังไม่ทิ้งกัน ก็ดูแลกันไปตลอด

สำหรับเงินทุนที่จะใช้ซื้อ คือ เงินเก็บที่จะไม่ถูกใช้ในระยะเวลานาน, ส่วนเงินที่เหลือเงิน จะมีไว้ใช้เพียงแค่การดำรงชีวิตขั้นพื้นฐาน

สำหรับแผนการซื้อ ไม่ให้เสี่ยงมากนักในเบื้องต้น คือ

  • ในช่วงนี้ โดยส่วนตัวมองว่าการขึ้นเป็นเพราะ ผู้คนกำลังสนใจ Bitcoin ทำให้เงินไหลเข้าตลาดคริปโต และดึงสกุลเงินต่างๆขึ้นไปด้วย ยังไม่ใช่เกิดจากการที่คนเห็นคุณค่าประโยชน์ของ ADA จริงๆ จึงอาจจะยังผันผวนทำให้ราคากลับลงมาได้อยู่ ช่วงนี้จึงยังคงเป็นระยะสะสม ADA
    • ADA ที่สะสมมาได้ จะไม่ขาย และ ให้นำไป Staking เพื่อเพิ่มมูลค่าเรื่อยๆ
    • ดูกราฟแบบรายสัปดาห์ หากสัปดาห์ไหน ราคาตก จะซื้อแบ่งเงินซื้อเพิ่มในวันพุธของสัปดาห์นั้น งบประมาณรวมอยู่ที่ 70,000 บาท(เป็นงบส่วนตัว ที่หากมูลค่าสูญหายก็ไม่เดือดร้อน) โดยมีเงื่อนไขตามภาพ
    • ตอนนี้ ราคาขึ้น ก็ยังไม่ซื้อนะ สัปดาห์ไหนราคาตกค่อยซื้อ!!!
  • เมื่อไหร่ที่ ADA เริ่มพัฒนาตนเองให้ใช้งานได้ง่าย และ มีประโยชน์หลากหลาย ทำได้ทุกอย่าง จนผู้ใช้งานเข้าถึงได้ง่าย(mass adoption) คงไม่ต้องพูดถึงเรื่อง การใช้พลังงานน้อย, ประหยัดทรัพยากรการประมวลผล แต่ทำงานได้รวดเร็ว มีเสถียรภาพ, ค่าธรรมเนียมต่ำ เพราะ มันผ่านเกณฑ์อยู่แล้ว(แต่อาจทำได้ดีขึ้นไปอีก) เมื่อนั้น ADA จะกลายมาเป็นสกุลเงินดิจิตอลที่คนใช้มากที่สุดได้
    • ในเรื่องการเข้าถึงผู้คน อย่างน้อยตอนนี้เราคนหนึ่ง ที่ไม่ค่อยรู้เรื่องคริปโต ก็เริ่มเข้าถึงและ ใช้งาน ADA ได้ไม่ยากแล้วล่ะ!!
    • ลักษณะการขึ้นของราคาที่ดี
      • หากเกิดจากการค่อยๆยอมรับจากผู้ใช้งาน (mass adoption) จะทำให้ราคา มีลักษณะของการค่อยๆขึ้นช้าๆ แบบไม่ผันผวนรุนแรง เพราะ เกิดจากรายย่อยจำนวนมากเข้ามาถือสะสม อีกทั้งหากเป็นไปในลักษณะนี้ ราคามักจะไม่กลับลงไปอีก โดยมักจะต้องใช้เวลายาวนาน ค่อยเป็นค่อยไป อาจจะหลายปี ไม่ได้ใช้เวลาแค่ช่วงสั้นๆ
      • ไม่ขึ้นแบบพุ่งขึ้นทีเดียวอย่างรวดเร็วและรุนแรง ที่มักจะมีผลจากการกระทำของรายใหญ่/ผู้มีอิทธิพลทางการเงิน หากเป็นในลักษณะนี้ ไม่แนะนำให้ซื้อ แต่แนะนำให้หาโอกาสขายทำกำไรบางส่วน เพราะ กราฟมักจะกลับลงมาที่เดิมจากการขายของรายใหญ่ แล้วเราค่อยกลับไปซื้อที่ราคาเดิมอีกครั้ง
      • แต่ทั้งนี้ อาจมีอีกกรณีหนึ่ง คือ หากมีการล่มสลายของสกุลเงินดิจิตอลอื่น อาจส่งผลต่อราคาได้เช่นกัน ทั้งอาจทำให้ราคาขึ้นอย่างรุนแรง จากการที่ผู้ใช้งานทั้งรายย่อย/รายใหญ่เข้ามาในตลาด, หรือลงอย่างรุนแรงจากความกังวลแบบไร้เหตุผล หากเกิดจากสาเหตุนี้ จะไม่ขาย แต่ให้ซื้อเก็บเพิ่ม เพราะ ราคามีโอกาสขึ้นอีกมาก
  • เนื่องจากว่าเรา บริหารความเสี่ยงไว้ มีการจำกัดงบ เท่าที่จะไม่ทำให้ชีวิตเรามีปัญหา เกิดว่าเราเข้าใจผิดแล้วขาดทุน เพราะ อาจมีCrypto ดีๆอีกมาก ที่เรามองข้ามไป ที่ดีกว่า ADA เราก็ยังไม่เดือนร้อนเท่าไหร่

ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับ การพัฒนาของ Cardano

  • เป็น Document สำหรับ Developer ที่เขียนไว้น่าศึกษามาก
    https://developers.cardano.org/docs/get-started/
  • "Ouroboros" บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ ที่มีใจความสำคัญเกี่ยวกับระบบ Proof of stake ของ Cardano ที่มี citation สูงสุด(ในช่วงปี 2015-2019) ซึ่งจริงๆถือเป็นแกนหลัก หรือ หัวใจของ Cardano เลยทีเดียว
    https://eprint.iacr.org/2016/889.pdf
  • มีการให้คนในชุมชน ADA ร่วมเสนอไอเดียในการพัฒนา รวมถึงโหวตสิ่งต่างๆที่มีผู้คนเสนอ กรณีตัวอย่าง เช่น มีโปรเจคว่าจะ ให้ทุนนักเรียน 5000$ สำหรับนักศึกษาที่ต้องการทุนสำหรับทดลองทำธุรกิจ โดยให้ส่งคลิปแสดงไอเดีย และให้ชุมชนช่วยกันโหวตคัดเลือกผู้ได้รับทุน รวมถึงสามารถช่วยบริจาคระดมทุนได้ด้วย เป็นต้น - โปรเจคใน Cardano มันเป็นประโยชน์กับโลกนี้จริงๆแฮะ
  • เว็บอื่นๆ ในเครือข่าย ADA
  • ประเด็นน่าสนใจ
    • https://www.reddit.com/r/cardano/comments/mdnrq6/are_stake_pools_inherently_centralized/
      มีการถกประเด็นว่า หากมีคนที่มีเงินทุนมาก แล้วเปิด Staking pool ได้หลาย node ถ้าสามารถควบคุมเสียงส่วนใหญ่ได้ 51% ก็จะสามารถควบคุมการทำธุรกรรมได้(take over network consensus)
      • ซึ่งมันเป็นไปได้ในทางทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติ ยังไม่มีใครสามารถทำได้ เพราะ ต้องใช้เงินมหาศาล เพื่อครอบครอง staking pool ให้ได้มากกว่า 51% ถึงอย่างไรก็ต้องระวังไว้เหมือนกัน, ตอนนี้IOHK เหมือนจะยังครอบครอง Staking pool มากที่สุด ประมาณ 20 มั้ง
      • จะมีAlgorithm บางอย่างที่ทำเพื่อลดโอกาสเกิดปัญหาดังกล่าว ด้วยการใช้ตัวแปรบางอย่าง ที่ทำให้ reward ลดลง แต่ก็ดูยังไม่ค่อยตรงกับปัญหาเท่าไหร่
        https://iohk.io/en/blog/posts/2021/03/04/not-long-till-d-0-day/
      • มีคำแนะนำจาก Cardano เหมือนกันว่าไม่ควรแบ่งเป็นหลายๆ staking pool เพราะ จะทำลายความ decentralized แสดงถึงความไม่โปร่งใส และทำให้ reward โดยรวมลดลง ในส่วนของผู้ใช้ก็ต้องเลือก pool ที่เชื่อถือได้ ผ่านการคัดกรองจาก Cardano มาในระดับหนึ่ง อย่าไป staking กับ pool ที่ไม่โปร่งใส แบ่งหลายๆ pool ย่อยๆ
        https://iohk.io/en/blog/posts/2020/11/13/the-general-perspective-on-staking-in-cardano/
    • https://news.ycombinator.com/item?id=28074271
      มีคนพูดถึงว่า proof of stake ดีกว่า proof of work อย่างไร เขียนได้ดีพอสมควรนะ แต่จะเลือกอะไรจริงๆ ก็ต้องดูความน่าเชื่อถือมาก่อนอยู่ดี
    • https://adapulse.io/why-governance-on-cardano-will-fail/
      อันนี้เป็นบทความว่าด้วยเรื่องการ vote ออกเสียงในการตัดสินใจต่างๆ ว่า ADA ยังคงใช้ระบบเงินมาก มีคะแนนเสียงมากอยู่
    • https://dailycoin.com/iohk-iog-engineering-company-behind-cardano-blockchain/
      เป็นบทความที่อธิบายถึง โปรเจคย่อยๆของ Cardano ต่างๆที่น่าสนใจ, ความเป็น open-source และ การพัฒนาจาก เหล่า Developer ทั่วโลก

สรุป คือ โดยส่วนตัวมองว่า ADA ก็เป็นหนึ่งในเหรียญที่น่าสนใจ นอกจาก Bitcoin ซึ่งจริงๆ ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละคนว่าชอบแบบไหน โดยส่วนตัวชอบ ADA มากกว่า

Add new comment

The content of this field is kept private and will not be shown publicly.

Plain text

  • No HTML tags allowed.
  • Lines and paragraphs break automatically.
  • Web page addresses and email addresses turn into links automatically.