Skip to main content

ทดลองถือศีล 8 ไปเรื่อยๆ(Dopamine fasting)

Submitted by krishrong on

ช่วงที่ผ่านมา ติดการ์ตูน และ social network อยู่พักหนึ่ง ทำให้ไม่ได้จริงจังกับการเรียน และเสียเวลาชีวิตไปพอสมควร ทีนี้เลยจะทดลองถือศีล 8 เพื่องดเว้น จากสิ่งที่ให้ความบันเทิงเหล่านี้ ดูว่าจะได้ผลไหม

ทั้งนี้ ศีล8 มีเคล็ดลับอยู่เล็กน้อย คือ ต้องตั้งใจใหม่ในทุกวัน เพราะ ปกติจะรักษากันแค่สัปดาห์ละ 1 วัน ในวันพระ เรียกว่า อุโบสถศีล พอจะมาถือศีลทุกวัน กำลังใจอาจจะไม่พอที่จะอดทน เลยต้องตั้งใจใหม่ทุกๆวัน เพื่อไม่ให้หย่อนคล้อย และถือศีลได้ดีขึ้นเรื่อยๆ

ประสบการณ์ถือศีล 8

  1. วันที่ 1
    1. รู้สึกว่ามีอาการกระสับกระส่าย อยากจะไปดูการ์ตูน, เล่น social network หาอะไรดูเรื่อยเปื่อย แต่ก็พอยับยั้งได้บ้าง แล้วก็กลับมาอ่านหนังสือโดยไม่ได้มีปัญหาเรื่องสมาธิอะไร สามารถจดจ่ออยู่กับหนังสือได้ไม่มีปัญหา เพียงแต่จะมีอาการอยาก(เสี้ยน)ไปดูสิ่งบันเทิง ตามความเคยชิน ผุดขึ้นมาเป็นระยะๆ ซึ่งมันเป็นอาการปกติของการเสพติด ทีนี้ก็มีเผลอไปดูบ้าง แต่ก็น้อยลงกว่าวันก่อนหน้าที่ผ่านๆมา
    2. เพิ่งรู้ว่าที่แต่ก่อนเข้าใจว่า อ่านหนังสือได้มีสมาธิ สุดท้ายก็ทนอ่านได้ไม่นาน แค่ไม่กี่ชั่วโมง ก็ไม่สามารถมีสมาธิจดจ่อกับหนังสือต่อได้อีก น่าจะเกิดจากการที่เอาแต่ดูการ์ตูน จนไม่ได้ฝึกสมองให้สามารถใช้งานได้นานๆ คงจะต้องฝึก train สมอง ให้ยืนระยะการใช้งานได้นานขึ้นๆ มากกว่านี้
  2. วันที่ 2
    1. อาการ ความอยากดูการ์ตูน อยากเล่นsocialลดลง ความรู้สึกกระสับกระส่ายลดลงเยอะ จนแทบไม่ได้มีผล แต่เหมือน จริงๆ ก็แอบเบื่อการดูการ์ตูนอยู่แหละ เพราะมันไม่มีเรื่องใหม่ให้ดู  แต่ก็เกิดความคิดอยากลองเล่นเกมส์ผุดขึ้นมาอีก (แต่ก็ยังไม่ได้เล่นนะ) การแอบไปดูการ์ตูน เล่น social ก็ลดลงกว่าเมื่อวานเยอะ
    2. เหมือนจะกินขนมที่ทำจากแป้งแปรรูป มากเกินไป ทำให้ไม่ค่อยมีสมาธิจดจ่อ ถึงแม้จะพออ่านได้ ก็ไม่ได้มากเท่าวันแรก(วันแรกว่าน้อยแล้ว วันนี้ก็น้อยลงไปอีก)
  3. วันที่ 3
    1. ช่วงนี้เริ่มมีสมาธิอ่านหนังสือตอนกินข้าวได้บ้างแล้วนะ แต่ก็ทำไม่ได้นาน ก็มีอย่างอื่นให้ไปทำอีก
    2. นั่งสมาธิตอนเช้า ได้ 30 นาที ไม่ค่อยมีสติตอนนั่งมาก แตสมาธิอยู่กับลมหายใจได้ดี (แม้จะบังคับลมอยู่นิดๆ ก็รู้ทั้งร่างกายที่มันอึดอัดนิดๆนี่แหละ การนั่งหลังตรงช่วยได้เยอะ)
    3. ทดลองเปลี่ยนมา กินวันละ 1 มื้อ ภายใน 1.30ชม(เปลี่ยนจาก IF 19/5 มาเป็น IF 22.5/1.5)
      1. มีเวลาต่อวันมากขึ้น 1 ชั่วโมง
      2. กินให้ได้ Calories เท่าเดิม ก็ไม่ได้อิ่มเกินไปอะไรนะ
      3. ที่สังเกตตัวเองคือ ช่วงที่กินวันละ 2 มื้อ กล้ามเนื้อไม่ค่อยมีแรง หากหยุดออกกำลังกายไปสักพัก
        ซึ่งถ้า Fasting ได้ผลจริง จะต้องมี Growth hormone ช่วยคงมวลกล้ามเนื้อ แม้จะไม่ได้ออกกำลังกายนานๆ กลับมาออกกำลังกาย ก็จะยังมีแรงดีอยู่ หรือ การกิน 2 มื้อ อาจไม่ค่อยได้ประโยชน์จากการ Fasting นะ?
        1. นอกจากนี้ช่วงที่กิน 2 มื้อ ไอเดียดีๆไม่ค่อยออกแฮะ
        2. ได้ยินมาว่า ประโยชน์ด้าน Autophagy ชะลอวัย ป้องกันมะเร็ง จะเกิดก็ต่อเมื่ออด 18-24 ชม ขึ้นไป และอัตราการเกิดค่อยๆเพิ่มมากขึ้นจนสูงสุด เมื่อผ่าน 48 ชม ไปแล้ว(ข้อมูลที่เป็นภาษาไทย ที่มีการรวบรวมค่อนข้างครบถ้วน จะมีช่องของ อ.ลอย รวบรวมไว้)
    4. อาการขาดสมาธิกลับมาอีกครั้ง หลังจากเปลี่ยนจากมากินมื้อเดียวเยอะๆ ถ้าดื่มน้ำเยอะๆ จะแก้ไขได้ไหมนะ
      1. ไม่ช่วยให้ดีขึ้นแต่อย่างใด อย่างมากแค่บรรเทา
      2. หากยังต้องใช้แรงทำงานอยู่ คงจะเลิกคิดจะกินมื้อเดียวแล้วกัน เพราะ การออกกำลังกายก็ช่วยเร่งการเผาผลาญและเกิด ketosis เร็วขึ้นได้อยู่แล้ว
      3. จริงๆ สมาธิยังดีอยู่นะ แต่ความอึดอัดที่ท้อง ทำให้ไม่อยากที่จะทำอะไร และ เหมือนเลือดไปเลี้ยงสมองลดลง เลยอ่านหนังสือได้ไม่ดี
    5. ได้ทดลองวิ่ง hiit ของจริง คือ วิ่งสุดชีวิต มีแรงเหลือเท่าไหร่ ก็วิ่งสุดชีวิตจนเกลี้ยง จนกล้ามเนื้อล้า รู้สึกแข้งขาอ่อนแรง ก็กลับมาเดิน รอพลังงานถูกเติมเข้าไปในกล้ามเนื้อใหม่ ทดสอบได้ด้วยการตอนที่เดินอยู่ ลองก้าวขาออกตัววิ่ง แล้วดูว่าขาหายอ่อนแรงหรือยัง ถ้ายังก็กลับมาเดินต่อ ถ้าขามีแรงแล้ว ก็จะออกวิ่งรอบถัดไปอีก Heart rate ขึ้นไปได้ถึง 181 bpm ซึ่งปกติฝึกวิ่งเข้าใจว่าหนักแล้ว ก็ยังไม่เคยทำได้เท่านี้มาก่อน ได้แค่ 171bpm
    6. สืบเนื่องจากตอนกลางวัน ไม่มีสมาธิอ่านหนังสือ เลยมีแอบดูการ์ตูนบ้าง
  4. วันที่ 4
    1. จริงๆวันนี้ไม่ค่อยมีเวลาว่างเท่าไหร่ เพราะ ถูกเรียกตัวไปทำงาน แต่เมื่องานเสร็จแล้ว ช่วงที่ว่าง ก็ไม่ได้อยากดูสิ่งบันเทิง หรือ เล่น social ใดๆเลยนะ กลับอยากอ่านหนังสือเสียอีก เหมือนกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว และ เหมือนอาการเสพติดการดูการ์ตูนลดลง หรือเปล่าหว่า? ถ้าเป็นแบบนี้ คือ การรักษาศีล 8 เป็นอุบายฝึกตัวเองที่ดีมากเลย แต่จริงๆที่ถือศีล8 มาได้ขนาดนี้ ก็เพราะว่าต้องการทำการทดลองด้วยล่ะมั้ง ถ้าถือเองโดยไม่ได้มีเป้าหมายมาล่อ อาจจะไม่จริงจังแบบนี้
  5. วันที่ 5
    1. วันนี้ไม่ค่อยมีสมาธิอ่านหนังสือ เพราะ มีบางเรื่องที่เข้ามาทำให้หงุดหงิด และเผลอไปคิดซ้ำๆอยู่นาน รวบรวมสมาธิไม่ได้ ซึ่งจริงๆ ควรพยายามมีสติรู้ทันว่าแอบไปคิดเรื่องที่ทำให้โกรธ หงุดหงิด และปล่อยวาง ถึงจะกลับมามีสมาธิได้ กิเลสเป็นศัตรูอย่างหนึ่งของสมาธิเลยแฮะ ต้องพยายามปล่อยวาง(แม้จะเป็นเพียงการคิดปล่อยชั่วคราว ก็พอช่วยได้นะ)
    2. เรื่องการถือศีล 8 วันนี้ความเคร่งครัดลดลง แต่ก็ไม่ได้ดูการ์ตูนอะไรมาก(แต่มีดูบ้าง)
    3. เหมือนพอเราเจอคนเยอะๆ จากเมื่อวาน ความเป็นตัวเองก็เสียไปเยอะ ความรู้สึกจะประมาณว่า ต้องกลับมาฟอร์มตัวใหม่ พัฒนาตนเองใหม่ ตามวิธีเดิมที่เคยบันทึกไว้ ไม่แน่ใจว่าเพราะ เราเป็นพวกไม่ชอบเจอคนหรือเปล่า หรือ เจอคนที่ไม่ชอบ ไม่ค่อยเป็นกัลยาณมิตรที่จะคอยแนะนำประโยชน์ต่อกัน ก็เลยทำให้โดยดูดพลังและเสียศูนย์ไปพอสมควร น่าจะเป็นแบบนี้แหละ เพราะ เวลาเราเจอคนที่คอยช่วยเหลือ สนับสนุนซึ่งกันและกัน เราจะรู้สึกมีพลังมากขึ้น แต่กลับกัน เวลาเจอบางคนเรารู้สึกเหมือนถูกดูดพลังไปตลอด เหมือนมีความลับอะไรบางอย่าง ที่พยายามไม่ให้เราเข้าถึง หรือ ซ่อนอะไรเบื้องหลังอยู่
  6. วันที่ 6
    1. วันนี้จะลองกินมื้อเดียว ภายใน 1.30 ชมอีกครั้ง แล้วก็อึดอัดอย่างที่เคยเป็น
      1. เลยงีบหลับสักพัก เพื่อให้สามารถย่อยอาหารได้เต็มที่ ก็พบว่าช่วยได้นะ พอตื่นก็กลับมาอ่านหนังสือได้อย่างมีสมาธิ เหมือนมีการศึกษาว่าการงีบหลังอาหารกลางวันช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้นด้วยมั้ง
      2. อีกอย่างที่ช่วย คือ ดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อให้การย่อยทำงานได้ดีขึ้น
    2. วันนี้เกิดความอยากลองเล่นเกมส์ขึ้นมา เลยลองเล่นดู และเกิดความรู้สึกตื่นเต้นในแบบที่มี dopamine หลั่ง แต่พอเหมือนถือศีล8 ไปเรื่อยๆ เริ่มกลายเป็นนิสัยไม่ชอบอะไรที่ตื่นเต้นแบบผิดปกติแล้ว เราเลยเริ่มรู้สึกไม่อยากจะเล่นเท่าไหร่
    3. วันนี้ก็อยากลองฟังเพลงดูด้วย แต่พอฟังแล้ว ก็เกิดความรู้สึกไม่ชอบความเคลิบเคลิ้ม ขาดสติ ที่ได้รับจากเสียงเพลง ส่วนหนึ่งกลายเป็นความรำคาญ และมีสมาธิอ่านหนังสือไม่เต็มที่แทน
    4. วันนี้หลังจากท่งดเครื่องดื่มพวกโกโก้ จากการที่ได้รู้ความจริงว่ามันให้พลังงาน และ ทำให้ประโยชน์จากการ Fasting เสียไปได้ วันนี้ออกกำลังกายเสร็จ ก็ดื่มแต่น้ำเปล่า(ถ้าหน้ามืด อาจเติมเกลือเล็กน้อย) ก็เริ่มกลับมาใช้ความคิดได้อย่างคล่องแคล่ว และพรั่งพรูขึ้นแล้ว ไอเดียดีๆ เริ่มจะออกมาแล้ว
Notes

** บทความนี้อยู่ใน หมวดหมู่ บันทึกประจำวัน ซึ่งมักจะเป็นเนื้อหาที่ ยังอยู่ในระหว่างการทดลองส่วนตัว ที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนได้ จึงขอแนะนำให้ผู้อ่านติดตาม จากเนื้อหาที่มีความเป็นปัจจุบันที่สุด โดยการคลิกที่ ลิงค์ "Tags" ที่เกี่ยวข้องด้านล่าง เพื่ออ่านบทความที่เกี่ยวข้อง ที่มีการอัพเดตล่าสุด ได้เลยครับ

Add new comment

The content of this field is kept private and will not be shown publicly.

Plain text

  • No HTML tags allowed.
  • Lines and paragraphs break automatically.
  • Web page addresses and email addresses turn into links automatically.