ช่วงที่ผ่านมา ติดการ์ตูน และ social network อยู่พักหนึ่ง ทำให้ไม่ได้จริงจังกับการเรียน และเสียเวลาชีวิตไปพอสมควร ทีนี้เลยจะทดลองถือศีล 8 เพื่องดเว้น จากสิ่งที่ให้ความบันเทิงเหล่านี้ ดูว่าจะได้ผลไหม
ทั้งนี้ ศีล8 มีเคล็ดลับอยู่เล็กน้อย คือ ต้องตั้งใจใหม่ในทุกวัน เพราะ ปกติจะรักษากันแค่สัปดาห์ละ 1 วัน ในวันพระ เรียกว่า อุโบสถศีล พอจะมาถือศีลทุกวัน กำลังใจอาจจะไม่พอที่จะอดทน เลยต้องตั้งใจใหม่ทุกๆวัน เพื่อไม่ให้หย่อนคล้อย และถือศีลได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
ประสบการณ์ถือศีล 8
- วันที่ 1
- รู้สึกว่ามีอาการกระสับกระส่าย อยากจะไปดูการ์ตูน, เล่น social network หาอะไรดูเรื่อยเปื่อย แต่ก็พอยับยั้งได้บ้าง แล้วก็กลับมาอ่านหนังสือโดยไม่ได้มีปัญหาเรื่องสมาธิอะไร สามารถจดจ่ออยู่กับหนังสือได้ไม่มีปัญหา เพียงแต่จะมีอาการอยาก(เสี้ยน)ไปดูสิ่งบันเทิง ตามความเคยชิน ผุดขึ้นมาเป็นระยะๆ ซึ่งมันเป็นอาการปกติของการเสพติด ทีนี้ก็มีเผลอไปดูบ้าง แต่ก็น้อยลงกว่าวันก่อนหน้าที่ผ่านๆมา
- เพิ่งรู้ว่าที่แต่ก่อนเข้าใจว่า อ่านหนังสือได้มีสมาธิ สุดท้ายก็ทนอ่านได้ไม่นาน แค่ไม่กี่ชั่วโมง ก็ไม่สามารถมีสมาธิจดจ่อกับหนังสือต่อได้อีก น่าจะเกิดจากการที่เอาแต่ดูการ์ตูน จนไม่ได้ฝึกสมองให้สามารถใช้งานได้นานๆ คงจะต้องฝึก train สมอง ให้ยืนระยะการใช้งานได้นานขึ้นๆ มากกว่านี้
- วันที่ 2
- อาการ ความอยากดูการ์ตูน อยากเล่นsocialลดลง ความรู้สึกกระสับกระส่ายลดลงเยอะ จนแทบไม่ได้มีผล แต่เหมือน จริงๆ ก็แอบเบื่อการดูการ์ตูนอยู่แหละ เพราะมันไม่มีเรื่องใหม่ให้ดู แต่ก็เกิดความคิดอยากลองเล่นเกมส์ผุดขึ้นมาอีก (แต่ก็ยังไม่ได้เล่นนะ) การแอบไปดูการ์ตูน เล่น social ก็ลดลงกว่าเมื่อวานเยอะ
- เหมือนจะกินขนมที่ทำจากแป้งแปรรูป มากเกินไป ทำให้ไม่ค่อยมีสมาธิจดจ่อ ถึงแม้จะพออ่านได้ ก็ไม่ได้มากเท่าวันแรก(วันแรกว่าน้อยแล้ว วันนี้ก็น้อยลงไปอีก)
- วันที่ 3
- ช่วงนี้เริ่มมีสมาธิอ่านหนังสือตอนกินข้าวได้บ้างแล้วนะ แต่ก็ทำไม่ได้นาน ก็มีอย่างอื่นให้ไปทำอีก
- นั่งสมาธิตอนเช้า ได้ 30 นาที ไม่ค่อยมีสติตอนนั่งมาก แต่สมาธิอยู่กับลมหายใจได้ดี (แม้จะบังคับลมอยู่นิดๆ ก็รู้ทั้งร่างกายที่มันอึดอัดนิดๆนี่แหละ การนั่งหลังตรงช่วยได้เยอะ)
- ทดลองเปลี่ยนมา กินวันละ 1 มื้อ ภายใน 1.30ชม(เปลี่ยนจาก IF 19/5 มาเป็น IF 22.5/1.5)
- มีเวลาต่อวันมากขึ้น 1 ชั่วโมง
- กินให้ได้ Calories เท่าเดิม ก็ไม่ได้อิ่มเกินไปอะไรนะ
- ที่สังเกตตัวเองคือ ช่วงที่กินวันละ 2 มื้อ กล้ามเนื้อไม่ค่อยมีแรง หากหยุดออกกำลังกายไปสักพัก
ซึ่งถ้า Fasting ได้ผลจริง จะต้องมี Growth hormone ช่วยคงมวลกล้ามเนื้อ แม้จะไม่ได้ออกกำลังกายนานๆ กลับมาออกกำลังกาย ก็จะยังมีแรงดีอยู่ หรือ การกิน 2 มื้อ อาจไม่ค่อยได้ประโยชน์จากการ Fasting นะ?- นอกจากนี้ช่วงที่กิน 2 มื้อ ไอเดียดีๆไม่ค่อยออกแฮะ
- ได้ยินมาว่า ประโยชน์ด้าน Autophagy ชะลอวัย ป้องกันมะเร็ง จะเกิดก็ต่อเมื่ออด 18-24 ชม ขึ้นไป และอัตราการเกิดค่อยๆเพิ่มมากขึ้นจนสูงสุด เมื่อผ่าน 48 ชม ไปแล้ว(ข้อมูลที่เป็นภาษาไทย ที่มีการรวบรวมค่อนข้างครบถ้วน จะมีช่องของ อ.ลอย รวบรวมไว้)
- อาการขาดสมาธิกลับมาอีกครั้ง หลังจากเปลี่ยนจากมากินมื้อเดียวเยอะๆ ถ้าดื่มน้ำเยอะๆ จะแก้ไขได้ไหมนะ
- ไม่ช่วยให้ดีขึ้นแต่อย่างใด อย่างมากแค่บรรเทา
- หากยังต้องใช้แรงทำงานอยู่ คงจะเลิกคิดจะกินมื้อเดียวแล้วกัน เพราะ การออกกำลังกายก็ช่วยเร่งการเผาผลาญและเกิด ketosis เร็วขึ้นได้อยู่แล้ว
- จริงๆ สมาธิยังดีอยู่นะ แต่ความอึดอัดที่ท้อง ทำให้ไม่อยากที่จะทำอะไร และ เหมือนเลือดไปเลี้ยงสมองลดลง เลยอ่านหนังสือได้ไม่ดี
- ได้ทดลองวิ่ง hiit ของจริง คือ วิ่งสุดชีวิต มีแรงเหลือเท่าไหร่ ก็วิ่งสุดชีวิตจนเกลี้ยง จนกล้ามเนื้อล้า รู้สึกแข้งขาอ่อนแรง ก็กลับมาเดิน รอพลังงานถูกเติมเข้าไปในกล้ามเนื้อใหม่ ทดสอบได้ด้วยการตอนที่เดินอยู่ ลองก้าวขาออกตัววิ่ง แล้วดูว่าขาหายอ่อนแรงหรือยัง ถ้ายังก็กลับมาเดินต่อ ถ้าขามีแรงแล้ว ก็จะออกวิ่งรอบถัดไปอีก Heart rate ขึ้นไปได้ถึง 181 bpm ซึ่งปกติฝึกวิ่งเข้าใจว่าหนักแล้ว ก็ยังไม่เคยทำได้เท่านี้มาก่อน ได้แค่ 171bpm
- สืบเนื่องจากตอนกลางวัน ไม่มีสมาธิอ่านหนังสือ เลยมีแอบดูการ์ตูนบ้าง
- วันที่ 4
- จริงๆวันนี้ไม่ค่อยมีเวลาว่างเท่าไหร่ เพราะ ถูกเรียกตัวไปทำงาน แต่เมื่องานเสร็จแล้ว ช่วงที่ว่าง ก็ไม่ได้อยากดูสิ่งบันเทิง หรือ เล่น social ใดๆเลยนะ กลับอยากอ่านหนังสือเสียอีก เหมือนกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว และ เหมือนอาการเสพติดการดูการ์ตูนลดลง หรือเปล่าหว่า? ถ้าเป็นแบบนี้ คือ การรักษาศีล 8 เป็นอุบายฝึกตัวเองที่ดีมากเลย แต่จริงๆที่ถือศีล8 มาได้ขนาดนี้ ก็เพราะว่าต้องการทำการทดลองด้วยล่ะมั้ง ถ้าถือเองโดยไม่ได้มีเป้าหมายมาล่อ อาจจะไม่จริงจังแบบนี้
- วันที่ 5
- วันนี้ไม่ค่อยมีสมาธิอ่านหนังสือ เพราะ มีบางเรื่องที่เข้ามาทำให้หงุดหงิด และเผลอไปคิดซ้ำๆอยู่นาน รวบรวมสมาธิไม่ได้ ซึ่งจริงๆ ควรพยายามมีสติรู้ทันว่าแอบไปคิดเรื่องที่ทำให้โกรธ หงุดหงิด และปล่อยวาง ถึงจะกลับมามีสมาธิได้ กิเลสเป็นศัตรูอย่างหนึ่งของสมาธิเลยแฮะ ต้องพยายามปล่อยวาง(แม้จะเป็นเพียงการคิดปล่อยชั่วคราว ก็พอช่วยได้นะ)
- เรื่องการถือศีล 8 วันนี้ความเคร่งครัดลดลง แต่ก็ไม่ได้ดูการ์ตูนอะไรมาก(แต่มีดูบ้าง)
- เหมือนพอเราเจอคนเยอะๆ จากเมื่อวาน ความเป็นตัวเองก็เสียไปเยอะ ความรู้สึกจะประมาณว่า ต้องกลับมาฟอร์มตัวใหม่ พัฒนาตนเองใหม่ ตามวิธีเดิมที่เคยบันทึกไว้ ไม่แน่ใจว่าเพราะ เราเป็นพวกไม่ชอบเจอคนหรือเปล่า หรือ เจอคนที่ไม่ชอบ ไม่ค่อยเป็นกัลยาณมิตรที่จะคอยแนะนำประโยชน์ต่อกัน ก็เลยทำให้โดยดูดพลังและเสียศูนย์ไปพอสมควร น่าจะเป็นแบบนี้แหละ เพราะ เวลาเราเจอคนที่คอยช่วยเหลือ สนับสนุนซึ่งกันและกัน เราจะรู้สึกมีพลังมากขึ้น แต่กลับกัน เวลาเจอบางคนเรารู้สึกเหมือนถูกดูดพลังไปตลอด เหมือนมีความลับอะไรบางอย่าง ที่พยายามไม่ให้เราเข้าถึง หรือ ซ่อนอะไรเบื้องหลังอยู่
- วันที่ 6
- วันนี้จะลองกินมื้อเดียว ภายใน 1.30 ชมอีกครั้ง แล้วก็อึดอัดอย่างที่เคยเป็น
- เลยงีบหลับสักพัก เพื่อให้สามารถย่อยอาหารได้เต็มที่ ก็พบว่าช่วยได้นะ พอตื่นก็กลับมาอ่านหนังสือได้อย่างมีสมาธิ เหมือนมีการศึกษาว่าการงีบหลังอาหารกลางวันช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้นด้วยมั้ง
- อีกอย่างที่ช่วย คือ ดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อให้การย่อยทำงานได้ดีขึ้น
- วันนี้เกิดความอยากลองเล่นเกมส์ขึ้นมา เลยลองเล่นดู และเกิดความรู้สึกตื่นเต้นในแบบที่มี dopamine หลั่ง แต่พอเหมือนถือศีล8 ไปเรื่อยๆ เริ่มกลายเป็นนิสัยไม่ชอบอะไรที่ตื่นเต้นแบบผิดปกติแล้ว เราเลยเริ่มรู้สึกไม่อยากจะเล่นเท่าไหร่
- วันนี้ก็อยากลองฟังเพลงดูด้วย แต่พอฟังแล้ว ก็เกิดความรู้สึกไม่ชอบความเคลิบเคลิ้ม ขาดสติ ที่ได้รับจากเสียงเพลง ส่วนหนึ่งกลายเป็นความรำคาญ และมีสมาธิอ่านหนังสือไม่เต็มที่แทน
- วันนี้หลังจากที่งดเครื่องดื่มพวกโกโก้ จากการที่ได้รู้ความจริงว่ามันให้พลังงาน และ ทำให้ประโยชน์จากการ Fasting เสียไปได้ วันนี้ออกกำลังกายเสร็จ ก็ดื่มแต่น้ำเปล่า(ถ้าหน้ามืด อาจเติมเกลือเล็กน้อย) ก็เริ่มกลับมาใช้ความคิดได้อย่างคล่องแคล่ว และพรั่งพรูขึ้นแล้ว ไอเดียดีๆ เริ่มจะออกมาแล้ว
- วันนี้จะลองกินมื้อเดียว ภายใน 1.30 ชมอีกครั้ง แล้วก็อึดอัดอย่างที่เคยเป็น
** บทความนี้อยู่ใน หมวดหมู่ บันทึกประจำวัน ซึ่งมักจะเป็นเนื้อหาที่ ยังอยู่ในระหว่างการทดลองส่วนตัว ที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนได้ จึงขอแนะนำให้ผู้อ่านติดตาม จากเนื้อหาที่มีความเป็นปัจจุบันที่สุด โดยการคลิกที่ ลิงค์ "Tags"
ที่เกี่ยวข้องด้านล่าง เพื่ออ่านบทความที่เกี่ยวข้อง ที่มีการอัพเดตล่าสุด ได้เลยครับ
Add new comment