โปรแกรมที่ดี ต้องสามารถปรับแต่งให้เข้ากับผู้ใช้งานได้ อย่างอิสระ และ ชาญฉลาด ช่วยให้ผู้ใช้งาน สะดวกขึ้น ทำงานง่ายขึ้น รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องปรับตัวเข้าหาโปรแกรม แต่สามารถปรับแต่งโปรแกรมให้เหมาะกับตัวเองได้
สาเหตุที่ต้องปรับแต่งได้อิสระ เพราะ เราไม่สามารถทำโปรแกรมหนึ่งๆ ให้เข้ากับผู้ใช้ทุกคนได้ บางคนมีความต้องการใช้เครื่องมือที่หลากหลาย ในขณะที่บางคนต้องการความเรียบง่ายและไม่ได้ใช้อะไรซับซ้อน โปรแกรมที่ดี จึงไม่ควรจำกัดอิสระ ในการปรับแต่งด้วยตนเองจากผู้ใช้ ยิ่งหากผู้ใช้สามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับตัวเองได้มากเท่าไหร่ ก็จะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน ได้มากขึ้นเท่านั้น
กรณีศึกษา คือ ระบบปฏิบัติการ MacOS กับ Linux
สิ่งที่พบเจอใน MacOS คือ
- User interface (UI) ที่ออกแบบมาให้ เน้นความเรียบง่าย สวยงาม ที่ทำอะไรไม่ค่อยได้ และยังค่อนข้างจำกัดการปรับแต่ง เช่น
- ไม่อนุญาตให้สามารถปรับแต่งอะไรได้มากมายนัก เช่น Menu bar ปรับให้เล็กลงก็ไม่ได้ ซ่อนไม่ได้ บางทีรู้สึกว่ากินพื้นที่เยอะเปล่า และไม่ค่อยได้ใช้งาน(ทั้งที่ dock bar ด้านล่างซ่อนได้นะ)
- Window manager ที่ไม่สามารถแบ่งครึ่งหน้าจอได้โดยง่าย ต้องใช้เมาส์กดหลายทีกว่าจะได้ ทำให้ทำงานไม่สะดวก กว่าจะเซ็ตหน้าต่างเสร็จ กว่าจะได้ทำงาน
- เน้นการใช้เมาส์คลิก ไม่เน้นการใช้คีย์ลัด
- คีย์ลัดยังทำงานแปลกๆ ไม่รู้คิดอะไรอยู่ เช่น
- ปุ่ม Command + tab เพื่อสลับโปรแกรม จะสลับได้เฉพาะโปรแกรมที่หน้าต่างเปิดอยู่ ถ้าหน้าต่างถูกซ่อนไปแม้โปรแกรมจะยังไม่ปิด ก็จะไม่สามารถสลับเพื่อเปิดหน้าต่างขึ้นมาได้ สุดท้ายต้องใช้เมาส์เลื่อนไปคลิกเปิดหน้าต่างนั้นเอง อีกทั้งยังสลับไดัเป็นตัวโปรแกรม ซึ่งหน้าต่างทั้งหมดของโปรแกรมนั้นๆ จะถูกสลับขึ้นมา และบังกันเอง ต้องใช้คีย์ลัดคือ option + tab เพื่อสลับในโปรแกรมอีกที มีเหตุผลอะไรวะเนี่ย!?
- มีคนพยายามคิดโปรแกรมเสริม เพื่อให้ระบบ Window manager และ shortcut keys ทำงานได้ดีมากขึ้น แต่ก็ไม่สมบูรณ์แบบอยู่ดี
- concept ที่ว่า "ผู้ใช้ต้องปรับตัวให้เข้าหา MacOS" โดยส่วนตัว คิดว่าไม่ถูกต้อง เพราะ คอมพิวเตอร์ถูกสร้างขึ้น เพื่อให้ชีวิตมนุษย์ ง่ายขึ้น พัฒนาขึ้น เข้าถึงความรู้ได้มากขึ้น ถ้าสร้างคอมพิวเตอร์ขึ้นมา แต่ใช้ไม่ได้ หรือใช้ลำบาก ไม่สามารถทำตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว มันก็ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นเลย คอมพิวเตอร์ไม่ใช่เครื่องประดับ ถ้ารูปลักษณ์ดูดีอย่างเดียว แต่ทำอะไรไม่ได้ มันไม่ตอบโจทย์การใช้งานได้จริง
- หลังจากที่ทนใช้มา 6เดือน ก็พบว่า เกิด productivity ต่ำมาก งานที่เคยทำได้ ก็ไม่ค่อยก้าวหน้าเลย จาก User interface ที่ไม่มีความสะดวกในการใช้งานแม้แต่น้อย
- ที่เราเจอมา มีคนทำคลิปอธิบายไว้แล้ว https://www.youtube.com/watch?v=8yjW-kMivWQ
สิี่งที่พบเจอใน Linux คือ
- User interface มีให้เลือกหลากหลาย ส่วนตัวชอบ KDE ซึ่งออกแบบมา เพื่อให้มีความยืดหยุ่น สามารถปรับแต่งได้ละเอียด ให้เหมาะกับการทำงานของเรามากที่สุด เช่น
- widget บน desktop สามารถทำเป็นชั้นหนังสือ หรือ โฟลเดอร์ที่เข้าบ่อย ก็ได้
- คีย์ลัด ลื่นไหล สลับโปรแกรมได้อย่างไม่มีปัญหา เวลาทำงานที่ใช้หลายหน้าต่างก็ทำได้รวดเร็ว ไม่มีข้อจำกัด แม้มีเพียงหน้าจอเดียว ก็ยังทำงานได้สะดวก
- widget บน desktop สามารถทำเป็นชั้นหนังสือ หรือ โฟลเดอร์ที่เข้าบ่อย ก็ได้
- โปรแกรมต่างๆ ที่ใช้ทำงาน ฟรีทุกอย่าง เป็น opensource และ ใช้ดีด้วย เช่น kate ซึ่งเป็น text-editor ที่ทำงานบน KDE สามารถเชื่อมกับ command line ได้, เบาทำงานรวดเร็ว, ออกแบบมาได้เรียบง่าย ชาญฉลาด ใช้งานได้ไม่สะดุด(ไม่ใช่เรียบง่ายแต่ทำอะไรไม่ได้เลย) ดีเกือบๆเท่า VS code เลย แต่เบาเครื่องกว่า ใช้ง่ายกว่า
- ส่วนอื่นๆ ก็ปรับแต่งได้ทุกอย่าง เช่น เวลาพับหน้าจอโน๊ตบุ๊คลง ก็สามารถสั่งให้ run script ที่ตั้งไว้ก็ยังได้(มีใน setting ของ KDE) เป็นต้น
- หลังจากที่ใช้งานมาเพียง 3 เดือน ก็เสร็จไป 2 project แล้ว ถึงแม้ตัวมันเองจะมีปัญหาเรื่อง driver กับการ์ดจอโน๊ตบุ๊ค ทำให้ภาพเคลื่อนไหวดูกระตุก แต่กลับทำงานจริงเกิดผลงานมากกว่า MacOS เยอะ
โดยส่วนตัว คิดว่า สาเหตุที่ Linux พัฒนาได้ดี เข้าใจ concept เรื่องการปรับแต่งที่หลากหลาย การใช้งานที่ยืดหยุ่น สาเหตุหลักอย่างหนึ่ง เกิดจากการที่เป็น opensource ทำให้เวลาที่ใคร ใช้งานแล้วมีปัญหาตรงไหน หรือเกิดไอเดียดีๆอะไร ก็สามารถช่วยกันพัฒนาได้จากโปรแกรมเมอร์อาสาสมัครทั้งโลก(พลังของ opensource) ต่างจากโปรแกรมที่ทำเพื่อขาย มักจะเน้นพัฒนาแต่ความสวยงาม ดูหวือหวา รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดี การตลาด เน้นทำกำไรจากผู้บริโภค แต่ไม่ได้ไปเน้นประสิทธิภาพในการทำงานจริงๆ
opensource น่าจะเป็นคำตอบสุดท้าย ที่จะทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆกับโลก อย่างแท้จริง
Comments