หลังจากที่ได้ลาออกจากงานประจำเดิม ซึ่งเป็นงานที่ไม่ชอบและไม่ถนัด และเปลี่ยนทิศทางชีวิตกลับไปศึกษาในสิ่งที่ตนเองถนัด และชอบ จึงทำให้ได้กลับมาทบทวนตัวเองอีกครั้ง ว่า เราจะควรจะดำเนินชีวิต ในรูปแบบไหน นับจากนี้ดีนะ
ถ้าพูดถึง การตั้งเป้าหมาย จริงๆจะมีอีกสิ่งหนึ่งที่มักจะถูกมองข้ามไป คือ การตั้งปณิธาน โดยลักษณะมีความแตกต่างกัน คือ
- เป้าหมาย มักเป็นสิ่งที่เรา มองเห็น หรือ คาดการณ์ได้ เท่าที่เราจะมีความรู้ หรือ จินตนาการออก และ มักจะเป็นเชิงรูปธรรม จับต้องได้ อาจจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ได้ โดยถ้าสำเร็จเป้าหมายหนึ่ง ก็มักจะต้องมีเป้าหมายต่อไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด ตราบเท่าที่ยังมีความต้องการอยู่ โดยลักษณะมักจะคล้ายๆ สิ่งที่เรียกว่า target
- ปณิธาน ไม่ใช่การมองไปข้างหน้าแบบเป้าหมาย แต่จะมุ่งกลับมาที่ตัวเราเอง โดยมักจะเกี่ยวข้องกับ หลักความคิดที่เรายึดถือ เพื่อให้เราเกิดกำลังใจ ในการเพียรพยายามต่อไป โดยจะเป็นในเชิงนามธรรม จับต้องไม่ได้ เป็นสิ่งที่เรารู้อยู่แก่ใจ ลักษณะมักจะคล้ายๆกับ สิ่งที่เรียกว่า passion
โดยส่วนตัว คิดว่าการตั้งปณิธาน สำคัญกว่าการตั้งเป้าหมาย เพราะ การตั้งเป้าหมาย หลายๆครั้งมักเป็นการจำกัดกรอบตัวเอง ทั้งในเรื่องความคิด การกระทำ รวมไปถึงวิธีการ เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย ซึ่งมักจะเป็นไปเพื่อสนองอัตตาตัวตนมากกว่า และมักจะทำให้วิสัยทัศน์ในการตัดสินใจคับแคบลง เป็นไปเพื่อเป้าหมายของตนเองเป็นหลัก โดยมาก การตั้งเป้าหมาย มักใช้เป็นเพียงการตั้งคร่าวๆ ในระยะเวลาอันสั้นเท่านั้น และไม่ควรจริงจังกับมัน ไปให้ความสำคัญกับปณิธานที่เราตั้งใจไว้จะดีกว่า
ในการตั้งปณิธาน จะเป็นเหมือน การตั้งเข็มทิศที่ชีวิตจะมุ่งไปในระยะยาว ต่อให้ระยะทางจะเจอความลำบาก แต่เราก็จะยังมุ่งไปตามเข็มทิศที่เราตั้งไว้ โดยอาศัยหลักความคิดที่เรายึดถือ เป็นพลัง ในการทำให้เกิดความพยายามต่อไป
วิธีการตั้งปณิธาน เท่าที่เคยลองสังเกตตนเองมา จะมีดังนี้
- ถ้าการตั้งปณิธาน เป็นไปเพื่อการเสียสละทำประโยชน์ให้ส่วนรวม มักจะทำให้เกิดกำลังใจ ให้เพียรพยายามต่อได้มาก เพราะ การทำประโยชน์ให้ส่วนรวม มันสามารถทำได้อย่างไม่มีขีดจำกัด เนื่องจาก ปัญหาในชีวิตผู้คนมักจะมีมากมาย ที่สามารถพัฒนากันได้ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าจะทางกายภาพ(วัตถุ) หรือ นามธรรม(ความรู้ ศีลธรรม)
- โดยส่วนตัวมีปณิธาน คือ อยากสร้างนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์กับชีวิตผู้คน โดยการใช้เทคโนโลยีในรูปแบบใดก็ตาม เพื่อพัฒนาให้ชีวิตคนดีขึ้น สะดวกขึ้น เข้าถึงความรู้ได้ง่ายขึ้น มีสติปัญญาที่ดีขึ้น มีระดับจิตใจที่สูงขึ้น มีเสรีภาพ และความเท่าเทียม เกิดเป็นสังคมที่สงบสุข โดยที่เทคโนโลยี จะเป็นเพียงส่วนเสริมในชีวิต ไม่เข้ามาแทรกแซงบิดเบือนชีวิต และต้องเอื้อให้คนอยู่กับธรรมชาติได้ดีขึ้น ไม่ใช่การเบียดเบียนธรรมชาติ
- ถ้าการตั้งปณิธาน เป็นไปเพื่อประโยชน์ตนเอง มักจะไม่ทำให้เกิดแรงใจในการพยายามสักเท่าไหร่ เพราะ กำลังใจที่มาจากความคิดเพื่อประโยชน์ตนเอง มักจะมีจำกัด ต่างจากการคิดอยากพัฒนาให้ดีขึ้น นอกจากนี้ ต่อให้เราได้ประโยชน์ แต่สิ่งรอบข้างไม่ได้พัฒนาขึ้น เราก็จะต้องอยู่กับสิ่งรอบข้างที่ไม่พัฒนานั้นอยู่ดี ซึ่งชีวิตก็จะวนเวียนกับสิ่งแวดล้อมแบบนี้แหละ ก็จะเป็นความรู้สึกที่แห้งแล้งประมาณนึง
ตัดจบเลย โดยขอทิ้งท้ายไว้คือ อย่าไปจริงจังกับเป้าหมาย(target) เพราะ บางทีมันเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ แต่จริงจังกับปณิธาน(passion) ที่เราตั้งไว้กับตัวเองดีกว่า ว่าทุกวันนี้ชีวิตของเรา ยังคงมุ่งไปตามทิศทางที่เราเคยตั้งปณิธานไว้ไหมนะ
Add new comment