ลำดับแหล่งความรู้ที่ดีที่สุด
- อินเทอร์เน็ต เพราะ มีคลังความรู้มหาศาล และฟรีสำหรับทุกคน หาหนังสือเล่มไหนก็ได้(ฟรีหรือไม่อีกเรื่องนึงนะ)
- ห้องสมุดขนาดใหญ่ เพราะ มีคลังความรู้มหาศาล แต่ฟรีสำหรับคนบางกลุ่ม และมีข้อจำกัดในการเข้าถึง
- ร้านหนังสือขนาดใหญ่/ศูนย์หนังสือ เพราะ มีคลังความรู้มหาศาล แต่ไม่ฟรี
- ร้านหนังสือทั่วไป เพราะ มีคลังความรู้ขนาดย่อมๆ
รูปแบบการเรียนรู้ที่ดีที่สุด
- การอ่าน จะเป็นการรับรู้ข้อมูล ไปตามลำดับตัวอักษร ตัังแต่ต้น จนจบ ทำให้ได้เนื้อความที่ครบถ้วนที่สุด ต่อให้เป็นคนสมาธิจะหลุดง่าย ก็ยังกลับมาอ่านต่อได้เรื่อยๆ และ เราสามารถเลือกตำราได้ด้วยตนเอง ที่เราอ่านแล้วรู้สึกเข้าใจง่ายที่สุด หรือ หากเลือกอ่านตำราของบุคคลที่เป็นปรมาจารย์ด้านนั้นๆ เป็นคนเขียน ก็เหมือนเราได้รับถ่ายทอดวิชาจากบุคคลที่เก่งที่สุดในด้านนั้นๆ โดยตรงเลย
- นอกจากนี้ ในการหาข้อมูลความรู้ ในเรื่องต่างๆ ความรู้ที่ดีที่สุด ที่เป็น original ที่สุด ที่ไม่ถูกปรุงแต่ง บิดเบือนโดยผู้อื่น จะบันทึกในรูปแบบ ข้อความ เอกสาร
- การอ่าน เป็นหนึ่งในรูปแบบการเรียนรู้ที่ใช้สมองมากที่สุด เพราะ ไม่มีใครอ่านแล้วมาอธิบายให้เราฟัง เราต้องใช้สมองในการอ่านแล้วคิดวิเคราะห์เอง ซึ่งจะทำให้เราได้ฝึกสมองด้วยการใช้ความคิดมากที่สุด มากกว่าการเรียนรูปแบบอื่น เช่น ดูวีดีโอ ที่เราไม่ต้องคิดอะไรเท่าไหร่ นั่งฟังเฉยๆแล้วจดตาม
- การฝึกสมองใช้ความคิดในรูปแบบนี้ จะฝึกให้เรา คิดวิเคราะห์เก่ง มีความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ นำมาสู่การคิดค้นสิ่งใหม่ๆได้
- การดูvdo/เรียนกับผู้สอน เหมือนเป็นการที่มีคนอ่านตำรา แล้วมาอธิบายให้เราฟังอีกที
- ข้อดีคือ จะได้รับเนื้อหาที่อาจจะเข้าใจง่ายขึ้น โดยที่ไม่ต้องเหนื่อยในการกลั่นกรอง หรือ ย่อยเนื้อหาจำนวนมากด้วยตนเอง
- แต่ข้อเสียคือ มีโอกาสที่เนื้อหาจะไม่สมบูรณ์ มีความตกหล่นในรายละเอียดปลีกย่อย ทั้งจากเวลาที่จำกัด หรือ สมาธิของผู้เรียนหรือผู้สอน ในแต่ละครั้งที่ไม่ได้เต็มร้อยทุกครั้ง(บางทีก็เหนื่อยล้า ทำให้รับข้อมูลได้ไม่ครบถ้วน) หรือเป็นความต้องการของผู้สอนเอง ที่ต้องการอธิบายเนื้อหาหลัก ส่วนรายละเอียดปลีกย่อย ก็ไปทบทวนด้วยการอ่านเพิ่มเองอีกที ซึ่งถ้าจะให้เกิดความเชี่ยวชาญในเรื่องใดๆอย่างแท้จริง ก็อาจจะต้องกลับไปอ่านเองอีกทีนึง
- ข้อเสียที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ เราจะไม่ได้ฝึกทักษะการคิดวิเคราห์ ย่อยเนื้อหา เรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งหากฝึกมากๆ มันจะเป็นทักษะติดตัวที่สำคัญอย่างหนึ่ง สำหรับการต่อยอดการเรียนรู้ด้วยตนเองได้ โดยไม่ต้องคอยให้ใครมาอ่าน ย่อย แล้วมาสอนเราอีกที หรือ การคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ นวัตกรรมใหม่ในอนาคต ก็อาศัยพื้นฐานจากการฝึกคิดวิเคราะห์ ทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ จากการเรียนรู้ด้วยตนเองนี่แหละ
- รูปแบบการเรียนรู้ด้วยการอ่านหนังสือ ต่างจาก ฟังบรรยาย หรือ VDO คือ
- หนังสือ จะมีรายละเอียดครบถ้วนชัดเจน ส่วน VDO หรือ ฟังบรรยาย จะเป็นการที่ผู้บรรยายสรุปให้เราฟังอีกที ซึ่งจะไม่มีรายละเอียดปลีกย่อยหลายๆอย่างเหมือนในหนังสือ ซึ่งถ้าเราอยากเป็น Expert หรือ เชี่ยวชาญในสิ่งนั้นๆจริงๆ การได้รู้หรือสัมผัสกับรายละเอียดปลีกย่อยอย่างครบถ้วนด้วยตนเอง แม้จะแค่รู้แล้วไม่ได้จดจำทุกรายละเอียดแต่อย่างใด จะทำให้เราเข้าใจในสิ่งๆนั้นได้ดีกว่า การฟังคนอื่นสรุปให้แล้วเราเข้าใจอย่างผิวเผิน
- ถ้าอยากเรียนอะไรให้เชี่ยวชาญต้องศึกษาจากตำราต้นฉบับจริงๆ ไม่ใช่การไปฟังบรรยายจากคนอื่นมาอีกที
ดังที่กล่าวมา เลยขอสรุปด้วยความเห็นส่วนตัวว่า การเรียนรู้ด้วยการอ่าน ยังเป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ที่ควรฝึกให้เคยชินกับมัน
Add new comment