29 มี.ค.
- คิดว่าจะเริ่มอ่านข่าวของประเทศต่างๆแล้ว จะได้มีข้อมูลไปเทรด อย่างน้อยๆก็เริ่มจาก usd, jpy, cad, eur
26 มี.ค.
- หลังจากที่ได้อ่าน Art of currency trading ต่อ ก็ได้รู้ว่าการเทรดมันมีมากกว่าการดูกราฟเยอะเลย ที่ผ่านมาเราเทรดแบบการพนันมาตลอด ปัจจัยขับเคลื่อนราคามีอยู่จริง
- ข่าวต่างๆใน Forex ตลาดจะตอบสนองเร็วมาก
- หุ้น Tech เท่าที่เคยลองเทรด จะตอบสนองช้า คือ ประมาณ 2 วันหลังข่าวออก หุ้นถึงขึ้น เหมือนนักลงทุนเขาไม่เข้าใจ tech เลยเข้าซื้อช้ากว่า
- วันนี้ลงเทรดไป 1 ไม้ ตามกฏที่ตั้งไว้กับตัวเองว่าเทรดอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
- แต่ก่อนเทรดด้วยความไม่รู้ การเทรดแต่ละครั้งจึงคิดว่าง่าย และเทรดแบบนักพนัน แต่ตอนนี้เทรดด้วยความรู้ ว่ามีปัจจัยเบื้องหลังการขึ้นลงของค่าเงินมากมาย แม้จะเทรดยากขึ้น แต่ก็เหมือนจะรู้ว่าตลาดกำลังทำอะไรอยู่จริงๆ ไม่ใช่การสุ่มมั่ว
22 มี.ค.
- สรุปว่า สัปดาห์นี้เทรด ได้ 7 เสีย 4 สรุปกำไร 3
21 มี.ค.
- จากตำรา Art of currency trading
- ก่อนจะเทรดอะไร ให้ลองเฝ้าดูตลาดนั้นก่อน เป็นเวลา 1-2 เดือน ด้วยการ paper trading
- เราจะได้รู้ว่า ช่วงตลาดลักษณะไหน Volatility สูง ช่วงไหนซบเซา
- ก่อนจะเทรดอะไร ให้ลองเฝ้าดูตลาดนั้นก่อน เป็นเวลา 1-2 เดือน ด้วยการ paper trading
20 มี.ค.
- ที่ TF month ยังเชื่อว่า ADA จะกลับขึ้นไปอย่างรุนแรงได้ (หลังจากโดยส่วนตัว หนีกำไรจากหุ้นที่ถืออยู่ มาลง ADA และ ทนถือขาดทุนมา 20%เกือบเดือน)
- จาก 0.6 น่าจะเหวี่ยงขึ้นไปถึง 1.2 ???(คิดเอาเอง จากคนเทรดไม่เป็น)
- การลงทุน จังหวะเวลาก็สำคัญ เราทุนน้อย ถือยาวไม่ได้ กำไรแล้วออก หาจังหวะเข้าใหม่
- ไม่ควรทนถือขาดทุน หากไม่ได้มีทุนมากพอ ให้คิดเสียว่า ตลาดมันเป็นแบบนั้นของมันอยู่แล้ว มีขึ้นมีลง เราไปยึดติดกับตลาด แต่ตลาดไม่เคยยึดติดกับเรานะ ตลาดมันไม่สนหรอกว่าชีวิตเราเป็นอย่างไร เราจะขาดทุนเท่าไหร่ ตลาดก็ไม่ได้มาเสียใจกับเรา
- เพราะฉะนั้น กรณีที่ทุนน้อย ไม่สามารถกระจายความเสี่ยงได้มากนัก ได้กำไรแล้ว ก็เก็บกำไร แล้วออก จากนั้นก็หาจังหวะเข้าใหม่
- แต่กรณีที่ทุนมาก สามารถลงทุนได้หลากหลาย จะปล่อยทิ้งไว้ยาวๆก็ได้ ไม่มีปัญหา ถ้าสิ่งที่เราลงทุนไว้ เราหาข้อมูลมาแล้วว่ามันดีจริงๆ
- จากตำรา Art of currency trading แต่ละ asset มี character เป็นของตัวเอง เช่น
- crypto ระยะยาว TF Month จะเห็นได้ชัด TF ระยะสั้น ที่อ่านกราฟได้ที่ชัวร์สุด คือ ที่ 1 day
- หุ้นต่างประเทศ พวกหุ้น Tech ที่ TF W จะเห็นได้ชัด
19 มี.ค.
- วันนี้เทรด usdjpy ได้ จากการอ่านตำรา Art of currency trading ได้รู้ว่า เวลา swing trade เขา ใช้ stop loss 45 pip กัน แต่ก่อนใช้แคบเกินไป เลยโดนกิน stop loss ตลอด
- ในระหว่าง sideway จะมี micromovement ซึ่งถ้าจะเทรดระยะยาว ควรวาง stoploss ให้ครอบคลุม
- กรณี micro movement สามารถวาง limit order เพื่อให้เราสามารถเข้าซื้อในจุดที่ได้เปรียบได้ เพราะ กราฟมักจะวิ่งมั่วไปมา แล้วมาโดนเสมอๆ
- ไม่ใช่ทุกกราฟที่จะมีลักษณะนี้ จึงมี 2 ทางเลือก
- เรียนรู้ pattern กราฟแบบอื่นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสหากำไร
- เทรดเฉพาะ pattern กราฟที่รู้จัก เพื่อลดโอกาสสูญเสีย โดยมักจะเป็นกราฟที่เห็น pattern ได้ชัดใน TF ขนาดปกติ คือ 1h โดยมีระยะ stop loss,Take profit ชัดเจน
- อย่าคิดทฤษฎีเอง ไปอ่านตำราต่อเถอะ
- เสียใจ ตรงที่หุ้น INET ที่เผ้าดูอยู่ ขึ้น 10% แต่ช่วงนั้นโยกเงินมา ADA ที่หวังกำไรก้อนใหญ่ แต่กลับลง 20% เอาจริงๆ ไม่ควรโลภหวังเยอะนะ ถ้ากราฟไม่ชัวร์ ก็อย่าเข้าซื้อเพราะความลำเอียง ค่อยๆสะสมกำไรทีละเล็กละน้อย ค่อยๆเติบโตไปดีกว่า
- แต่แผนการณ์ตอนนี้ก็จะยังคงถือ ADA ไปอีกยาวนาน เป็นการลงทุนระยะยาว เพราะ ระบบมันดีจริงๆ ในแง่ เสถียรภาพ,ความปลอดภัย เปิดมา 5 ปีโดยที่ระบบไม่มีปัญหาเลย
- สุดท้ายยังไงเดี๋ยวก็ราคาแพงขึ้นๆ คิดว่าตอนนี้นักลงทุนรายใหญ่น่าจะกำลังรอของราคาถูกอยู่
Notes
** บทความนี้อยู่ใน หมวดหมู่ บันทึกประจำวัน ซึ่งมักจะเป็นเนื้อหาที่ ยังอยู่ในระหว่างการทดลองส่วนตัว ที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนได้ จึงขอแนะนำให้ผู้อ่านติดตาม จากเนื้อหาที่มีความเป็นปัจจุบันที่สุด โดยการคลิกที่ ลิงค์ "Tags"
ที่เกี่ยวข้องด้านล่าง เพื่ออ่านบทความที่เกี่ยวข้อง ที่มีการอัพเดตล่าสุด ได้เลยครับ
Add new comment