โดยส่วนตัวได้เริ่มฝึกสมาธิมาสักพัก คือ ทำกรรมฐานด้วยการฝึกดูลมหายใจ เช่น เดินจงกรมแล้วดูลมหายใจ, นั่งดูลมหายใจบางช่วงขณะทำงาน, รู้ลมหายใจระหว่างวัน รวม 3 แบบ พบว่า ทำให้สติและสมาธิดีขึ้นจริง ต่างจากวิธีแต่ก่อนที่เน้นการออกกำลังกาย ซึ่งก็ได้ผลดีขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับทั่วไป ในการฝึกสมาธิ มันทำให้เราสามารถใช้ความคิดได้อย่างมั่นคง เป็นระบบไปตามลำดับ ลึกซึ้ง ไม่ถูกสิ่งแวดล้อมรบกวน ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยได้มีสมาธิดีขึ้นเท่านี้มาก่อน แม้จะออกกำลังกายมานาน ก็ได้เพียงสมาธิผิวเผิน(*แต่การออกกำลังกายบ้าง ก็จะช่วยเรื่องความกระฉับกระเฉง ความแข็งแรง และสมรรถนะทางกายนะ)
หลักๆคือการ พยายามรู้ลมหายใจ ให้ได้ตลอดเวลาในชีวิตประจำวัน ทุกขณะที่เป็นไปได้ ลมหายใจ คือเครื่องอยู่ คือคำบริกรรม ที่จะเป็นเครื่องระลึกให้เราเกิดสติในชีวิตประจำวัน
ส่วนกรรมฐานในรูปแบบ ก็มีความสำคัญ คือ การฝึกสมาธิแบบต่อเนื่องในเวลาที่กำหนด แบบที่จะไม่มีสิ่งรบกวนในชีวิตประจำวันมาข้องเกี่ยว ต้องแบ่งไว้อย่างน้อย 1ชมในแต่ละวัน อาจทำโดย การนั่งสมาธิทำอานาปานสติ หรือ เดินจงกรมแล้วดูลมหายใจไปด้วย(โดยส่วนตัวชอบแบบนี้) หรือ กรรมฐานอื่นใดที่จิตของตนเองชอบ (แต่ละคนจะต่างกัน เช่น เจริญเมตตา สวดมนต์ บริกรรมพุทโธ ฯลฯ)
โดยส่วนตัว สมาธิที่ฝึกคือ
- เดินจงกรม แล้วดูลมหายใจ หลังตื่นนอน 30 นาที
- ในระหว่างวัน เดินจงกรม ครั้งละ 5 นาที ทุกชั่วโมง ก่อนเริ่มอ่านหนังสือ
- นั่งสมาธิบ้าง ก่อนนอน 15-30 นาที
ผลที่จะได้รับ ถ้าฝึกอย่างถูกต้อง เหมาะสม คือ สติ รู้ตัวได้ดีขึ้น อยู่กับตนเองได้ดีขึ้น รู้ทันความคิด เริ่มกลับมารู้ทันกิเลสและจิตใจตนเองได้มากขึ้น และ สมาธิดีขึ้น คิดได้มั่นคง ไม่ถูกสิ่งแวดล้อมรบกวนง่ายแบบเมื่อก่อน คิดเป็นระบบ เป็นลำดับ และคิดได้อย่างมีพลัง และ ไม่เหนื่อย
ถ้าให้เทียบผลของการฝึกสมาธิ กับ การออกกำลังกายด้วยการวิ่ง โดยส่วนตัวขอให้คะแนนความเปลี่ยนแปลงของสมาธิที่ดีขึ้น อยู่ที่ 100 คะแนน สำหรับการฝึกสมาธิ กับ 0.1 คะแนนสำหรับการออกกำลังกาย คือ ผลมันต่างกันเยอะมากๆๆ การฝึกสมาธิมันดีจริงๆนะ การออกกำลังกายเหมือนเป็นการเพิ่มความกระฉับกระเฉง ทั้งทางกาย และช่วยให้สมองคิดอะไรได้ไวขึ้นมากกว่า
โดยส่วนตัวลองฝึกสมาธิมากว่า 10 ปี เพิ่งจะเริ่มทำได้ง่ายขึ้นในช่วงนี้ โดยพยายามฝึกตั้งแต่ยังเรียนมัธยม ฝึกบ้างไม่ฝึกบ้าง ทำหยุดๆ ไม่จริงจังมาเรื่อยๆ จนเริ่มเรียนรู้มากขึ้นๆ และเริ่มได้รับประโยชน์ในการทำให้ชีวิตดีขึ้นบ้าง ก็ถือว่าคุ้มแฮะ (แต่ตอนนี้ก็ยังต้องเรียนรู้ต่อไปนะ เพราะ อาจจะเพียงแค่ผิดน้อยลง แล้วชีวิตดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้ถูกทั้งหมดอยู่ดี)
** บทความนี้อยู่ใน หมวดหมู่ บันทึกประจำวัน ซึ่งมักจะเป็นเนื้อหาที่ ยังอยู่ในระหว่างการทดลองส่วนตัว ที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนได้ จึงขอแนะนำให้ผู้อ่านติดตาม จากเนื้อหาที่มีความเป็นปัจจุบันที่สุด โดยการคลิกที่ ลิงค์ "Tags"
ที่เกี่ยวข้องด้านล่าง เพื่ออ่านบทความที่เกี่ยวข้อง ที่มีการอัพเดตล่าสุด ได้เลยครับ
Add new comment