Skip to main content

กลยุทธ์การเทรดในปัจจุบัน

Submitted by krishrong on

เป็นกลยุทธ์การเทรดที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เป็นแผนการเทรดส่วนตัว ไม่รับประกันว่าจะได้กำไรนะ

Crypto

  • ปกติจะดูกราฟใน TF(Time frame) Month (1 แท่งเทียน = 1 เดือน) 
    • * แต่จริงๆ ถ้าลองดูกราฟที่ TF 6M(6 เดือน ต่อ 1 แท่งเทียน) จะค่อนข้างสมเหตุสมผลกับคริปโตอยู่นะ เหมาะกับคนที่เทรดไม่เป็น มันทำให้เห็นแนวรับ-ต้าน ที่มีนัยสำคัญมากๆ อย่างชัดเจน
  • Month ไหน ที่กราฟลงเป็นแท่งแดง จะซื้อเก็บทีละน้อย
  • ไม่ขายนะ เก็บอย่างเดียว ถือว่าเป็นที่สะสมเงิน
  • เน้น ADA(Cardano) เพราะ ไม่มี เจ้ามือ(สัดส่วน Top 100 holder ครองสัดส่วนในตลาด < 20% แสดงถึง ความซื่อตรงของผู้พัฒนา ที่ไม่แอบเก็บเหรียญไว้เอง) เหรียญมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีนวัตกรรมใหม่ๆที่ดี น่าสนใจ ดูใช้งานได้จริง และโดยส่วนตัวก็เริ่มใช้งานเองจริงๆบ้างแล้ว
  • Crypto ตัวอื่นที่ Top100 holder น้อย คือ bitcoin 13%, solana & xrp 33% นอกนั้น Top 100 holder ครองสัดส่วน>50% ทั้งหมด(ไม่ได้ decentralized จริงๆ)
    • bitcoin ก็น่าสนใจในแง่ decentralized มากที่สุด แต่กินทรัพยากรไฟฟ้ามหาศาล เลยขอไม่เอาแล้วกัน

หุ้นไทย

  • ซื้อเฉพาะบริษัทที่เรารู้จัก ที่เรารู้สึกว่า สามารถทำให้เราเอง จำเป็นต้องซื้อของหรือใช้บริการจากเขา
  • บริษัทไหนที่เราไม่ค่อยรู้เรื่อง เช่น อุตสาหกรรมผลิตโลหะ พลังงาน บลาๆๆ จะไม่ซื้อ
  • หาความรู้เยอะๆรอบด้าน จะได้มีความรู้กว้าง รู้จักบริษัทได้หลากหลายขึ้น
  • แนะนำให้ดูใน TF 3 Month(1 แท่งเทียน = 3 เดือน) คือ การดูกราฟ รายไตรมาส ไปเลย เพราะ การประเมินธุรกิจ หรือการประเมินเศรษฐกิจ มักจะประเมินเป็นรอบๆ ทั้งรายไตรมาส, 6 เดือน, 1ปี การดูกราฟรายไตรมาส ทำให้เห็นพฤติกรรมของราคาหุ้นได้ชัดเจนมาก และ หุ้นไทยวิ่งช้า กว่าจะวิ่งรอบใหญ่ๆก็อาจจะปีละครั้ง การดูกราฟใน TF ใหญ่ๆ จะเห็นภาพชัดเจนขึ้น
  • วันไหนในสัปดาห์ ที่กราฟลงเป็นแท่งแดง จะซื้อเก็บตามความเหมาะสม หากกราฟเป็นรอบขึ้น เป็นแท่งเขียวอาจขายทำกำไรบ้างตามรอบ
    • ซื้อแดง ขายเขียว

หุ้น Tech ของ America

  • เนื่องจากสนใจด้าน Tech เลยพอจะอ่านข่าวและวิเคราะห์ได้ว่า อะไรคือนวัตกรรมที่ดี และอาจส่งผลให้บริษัทได้รับความสนใจทำให้หุ้นขึ้น ถ้าเป็นบริษัทกลุ่มอื่น เช่น การเงิน พลังงาน ยา ฯลฯ จะไม่ยุ่งนะ
  • ปกติจะดู TF week เพราะ หุ้น tech วิ่งแรงพอสมควร
  • อันนี้ เนื่องจาก Trade แบบ Leverage ไม่ได้ trade spot(ซื้อหุ้นเก็บไว้ไม่ได้) จึงใช้ข่าว ร่วมกับ Technical analysis คือ หากกราฟทำทรง break แนวต้านขึ้นไป ก็จะเข้า buy
    • รอสัญญาณการขึ้น(break แนวต้าน) ไม่ใช้กลยุทธ์ช้อนซื้อแบบหุ้น&Crypto
  • จะ Trade ฝั่ง buy เท่านั้น ไม่ Trade ฝั่ง Sell เพราะฝั่ง sell กราฟจะผันผวน โดนกิน stop loss ง่าย

Forex&Gold

  • ขอไปศึกษาตำราก่อน ยังไม่ได้กำไรจากตลาดนี้
  • ดูกราฟที่ TF month เท่านั้น โดยตีเส้น แนวรับ-ต้าน, เทรนด์ไลน์ บ้างตามความเหมาะสม
    • สาเหตุที่ดู TF month เพราะ วิเคราะห์ข่าวไม่เป็น และ เรื่องของสกุลเงิน เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ นโยบายระหว่างประเทศ ซึ่งมักจะมีผลกระทบ อย่างน้อย เป็นเดือน เป็นปี ไม่ใช่แค่ เป็นวัน หรือ สัปดาห์ การดู TF month จึงเหมาะสมที่สุด ทำให้แม้วิเคราะห์ข่าวไม่เป็น ก็ยังพอเข้าใจกราฟและเทรดได้
    • ใช้ความลำเอียง(bias) จากการวิเคราะห์กราฟเอาเอง ว่าจะ buy หรือ sell
      • ที่พอช่วยได้คือ พฤติกรรมของกลุ่มแท่งเทียนก่อนหน้า เช่น
        • ติดแนวรับ-ต้าน ทำให้เกิดการกลับตัว
        • ทะลุ(break) แนวรับ-ต้าน และ ตามtrend เดิมต่อไป
  • ไม่เทรดสกุลเงินซ้ำ ในรอบสัปดาห์ เพราะ เพื่อเป็นการลดโอกาสเกิด bias โดยไม่จำเป็น เช่น เปิด order EURJPY ไปแล้ว ในสัปดาห์นั้นจะไม่เทรดคู่เงิน ที่มี EUR กับ JPY อีก เพราะจะเกิดbiasในสกุลเงินที่เพิ่งเทรดไป เช่นว่า EUR มีแนวโน้มจะขึ้น และ JPY มีแนวโน้มจะลง เป็นต้น
    • ยังไงทุกคู่เงินก็มีความสัมพันธ์สอดคล้องกัน หรือ มีผลซึ่งกันและกันอยู่แล้ว เทรดในคนละคู่เงิน ก็ยังมีผลแหละ
    • เป็นการกระจายความเสี่ยงไปในแต่ละสกุลเงินเท่าๆกันด้วย ไม่เน้นหนักในคู่เงินใดเป็นพิเศษ
    • โดยรวมๆ ก็จะเปิดorder เพิ่ม ได้ประมาณ 4-5 order ต่อสัปดาห์
  • ถ้าสัปดาห์ถัดไป จะสามารถเปิดorderซ้ำได้ ในสกุลเงินเดิมที่เคยเทรดไปแล้ว เมื่อสัปดาห์ก่อนๆ เพราะ ถือว่าเป็นรอบการเทรดใหม่ เป็นการวิเคราะห์กราฟรอบใหม่
  • วันที่เทรด - ถ้าเป็นช่วงต้นสัปดาห์คือ วันจันทร์ อังคาร กราฟจะ sideway ในภาพเล็ก(TF week, day) เหมาะกับการเทรดตรงข้ามเทรนด์หลัก แต่กลางสัปดาห์ คือ วันพุธ วันพฤหัส มักจะมีแรงจากเทรนด์หลักกลับมา เหมาะกับการเทรดตามเทรนด์หลักใน TF month
  • โดยส่วนตัว เทรดสัปดาห์ละครั้ง ทุกวัน พุธ(กลางสัปดาห์ กราฟจะชัด เพราะวิ่งมาบ้างแล้ว)
  • การเก็บกำไร&จำกัดการขาดทุน
    • วาง Stop loss ใช้ TF week กำหนด % loss ที่ 1% ต่อ order
    • วาง Take profit ใช้ TF month แต่ไม่ควรหวังเป้ากำไรยาวเกินไป โดยเป้ากำไรมักจะอยู่ภายในเดือน(ภายใน 1 แท่งเทียน หากดูจาก TF month) หรือ 2 สัปดาห์ หากนานเปิดทิ้งไว้นานกว่านี้ กราฟจะมีโอกาสผันผวนและกระชากจนกำไรหาย และอาจขาดทุนแทน โดยเฉลี่ยกราฟจะกระชากทุก 2 สัปดาห์
    • ทุก order ต้องมี Risk reward ratio 1:3 ถึง 1:5 (ไม่มากเกินช่วงนี้ เพราะ จะ bias มากไป และไม่น้อยกว่านี้ เพราะ จะไม่คุ้มกับความเสี่ยง)
  • (เล็ง) ดูกราฟในภาพใหญ่ จาก TF month/ 3 month แล้ว (ยิง/จับเหยื่อ) เข้าไปเทรดใน TF เล็กๆ เช่น 1h, 4h โดยเก็บกำไรสั้นๆ ถือorderนานสุด ไม่เกิน 2 week ทุกนัดที่ยิงต้องมี Risk reward 1:3-1:5 และ % loss คือ 1% ทั้งนี้ ทุกครั้งที่ล่า(เทรด) ไม่ได้หวังได้ผลกำไร ทุกนัดที่ยิงออกไป เพราะ ไม่ได้ประเมินถูกทุกครั้ง แต่mindset คือ เทรดอย่างเหมาะสม ค่อยได้กำไรสะสมจากการเทรดที่ถูกต้อง
  • หรือ เอาจริงๆ จะดูกราฟใน TF เล็กไปเลยดีนะ เช่น 1h, 4h แล้วเทรดสั้นๆ วันต่อวันไปเลย อาศัยดูแนวรับ-ต้าน เป็นจุด SL, TP เพราะ การเทรด ต่อให้เทรดมั่ว คือ ไม่รู้ว่าจะขึ้นหรือลง(ซึ่งก็ไม่มีใครรู้อยู่แล้ว) แต่ถ้า mindset เหมาะสม ก็น่าจะได้กำไร?
  • เอาจริงๆ จะเทรดมั่วก็ได้นะ เพราะ ต่อให้คิดรอบด้านแค่ไหน ก็ยังผิดได้อยู่ดี นอกจากนี้ แม้กระทั่งการโยนหัวก้อย ซึ่งเป็นการเดามั่วๆ เรายังมีโอกาสถูกตั้ง 50/50 ซึ่งการเทรดก็ควรมีโอกาสมากกว่านั้นมากนัก เลยใช้หลักการเดาสุ่มเอาซะเลย ขี้เกียจคิดมากแล้ว เพียงแค่รู้จักการวาง SL, TP อย่างเหมาะสม(ตามแนวรับ-ต้าน) มี risk management ที่ดี, mindset ที่ถูกต้อง ไม่พยายามเทรดเพื่อเอาชนะตลาด, ไม่เทรดเพื่อให้ได้กำไรตามเป้า, รู้จักยอมแพ้ ไม่เทรดตามอารมณ์ ฯลฯ
    • นอกจากนี้มีเคล็ดลับอย่างหนึ่งของ Forex คือ "มันไม่แน่ อะไรก็เกิดขึ้นได้ วิเคราะห์มากแค่ไหน หรือ กราฟดูไปทางนั้นๆมากแค่ไหน ก็กลับไปอีกทางได้ มันsidewayเป็นปกติเลย"
    • ท่องไว้ในใจว่า "sideway sideway sideway!"
  • ที่ TF 1 H กราฟจะมีการวิ่ง2 ช่วง คือ ช่วงแรก เรียกว่าช่วงพักตัว กราฟราคาจะย่ำอยู่กับที่ กลับไปกลับมาแบบไม่มีทิศทาง (sideway) พอพ้นช่วงนี้ กราฟจะเกิดการพุ่งตัว วิ่งแบบมีทิศทาง(trend) ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
    • เราจะรอให้ช่วง sideway สร้างแนวราคาที่ชัดก่อน จากนั้นจึงเข้า order โดยคำนวณ lot size ให้เหมาะสมกับ stop loss และ รอกราฟวิ่งเมื่อเกิดช่วงที่เป็น trend

Technical analysis

  • ไม่ได้เชี่ยวชาญอะไร แต่ใช้เทคนิคง่ายๆ คือ
    • เริ่มดูกราฟจาก TF ใหญ่สุดก่อนเสมอ(6Month, 3M, 1M, week) แล้วค่อยไล่ลง TF ย่อยลงมา
    • ตีแนวรับ - ต้าน แนะนำให้ตีเส้นจากใน TF ใหญ่ เพราะ มีนัยสำคัญมากกว่า
    • ใน TF เล็กจะใช้ในการ เปิด order และ กำหนด stop loss เพราะ จะได้ อัตราส่วน Risk ที่แคบ ต่อ Reward ที่กว้าง
    • อื่นๆ เช่น Trend line ไม่ค่อยใช้บ่อยเท่า แนวรับ-ต้าน(support and resistance zone)
    • Technical analysis ไม่ใช่ตัวพยากรณ์ว่ากราฟจะขึ้น หรือลง เป็นเพียงตัวช่วยในการอ่านกราฟ เป็นเหมือนเส้นบรรทัด ที่จะช่วยให้เราดูง่ายขึ้นว่า จุดที่กราฟอยู่ เหมาะที่จะเข้าเทรดหรือยัง ไม่เมากราฟ ถ้าเรามีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกราฟนั้นๆร่วมด้วย เข่น ข่าวที่ส่งผลกระทบ เป็นต้น จะช่วยให้คาดการณ์ได้ถูกต้องกว่า
    • อีกอย่างคือ อย่าจมคลื่น คือ ตัดสินใจไม่ถูก ไม่รู้ว่ากราฟจะไปทางไหน ให้ถอยออกมาดูในTF ที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าเราจะกราฟชัดเจนในภาพใหญ่ ก็จะทำให้เห็นทิศทางง่ายขึ้น ไม่จมกราฟ
  • เคยอ่านตำราของ John J Murphy - Technical Analysis Of The Financial Markets จัดว่าเป็นตำราพื้นฐานสำหรับเรียนรู้เริ่มต้น มีประเด็นน่าสนใจเยอะ แม้จะเขียนเมื่อนานมากแล้ว ก็ยังควรค่าที่จะอ่าน
  • ส่วนใหญ่ช่วงเวลาในสัปดาห์ที่กราฟชัดและเหมาะกับการเทรดมากที่สุด คือ ช่วงกลางสัปดาห์ คือ อังคาร พุธ พฤหัส เพราะ จะมีการเทรดมาก ส่วนวันจันทร์ ต้นสัปดาห์ กราฟจะไม่ขยับเท่าไหร่ และวันศุกร์ปลายสัปดาห์ มักจะมีการขายทำกำไร ทำให้กราฟพักตัว ไม่ได้ตามเทรนด์

ทั้งนี้มีอีกสิ่งที่สำคัญคือ เรื่อง Money management คือ การบริหารความเสี่ยง คอยประเมินความเสี่ยงหรือความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นเสมอ ในการลงทุนกับอะไรก็ตาม

นอกจากนี้ สิ่งที่ทำเป็นเพียงการลงทุนไว้กับสิ่งต่างๆเพื่อให้เงินงอกเงย ไม่ใช่การเทรดรายวันเพื่อการเลี้ยงชีพ อาชีพหลักคือ การหาความรู้เพื่อพัฒนาตนเอง เพื่อสร้างนวัตกรรม หรือ ทำอะไรสักอย่างที่ต้องใช้ความพยายาม ใช้สติปัญญา และเกิดประโยชน์ต่อโลกจริงๆ

Add new comment

The content of this field is kept private and will not be shown publicly.

Plain text

  • No HTML tags allowed.
  • Lines and paragraphs break automatically.
  • Web page addresses and email addresses turn into links automatically.