https://www.youtube.com/watch?v=vge9LQIV1bg
ได้ดูคลิปแนะนำเทคนิคการอ่านหนังสือ จาก Channel ของ Salim Ahmed ซึ่ง โดยส่วนตัวลองแล้วได้ผลจริงๆ เลยเอามาบันทึกไว้ ไม่ให้ลืม
จากที่เขาเล่า มีเทคนิคการอ่านหนังสือให้เร็วขึ้น 3 ข้อง่ายๆ เท่านั้น ดังนี้
- อย่าอ่านเป็นคำพูดในหัว อ่านแบบเข้าใจความหมายไปเลย - เพราะ การอ่านเป็นเสียงพูดในหัวอีกรอบก่อน จะทำให้ช้า และเป็นสาเหตุหลัก ที่ทำให้เกิดการจำกัดความเร็วในการอ่านของเรา แต่ถ้าเราเห็นข้อความ แล้วเข้าใจเป็นความหมายไปเลย จะเป็นแนวทางการรับข้อมูลได้เร็วกว่ามาก และจะเพิ่มความเร็วในการอ่านได้อย่างก้าวกระโดด
- อ่านโดยที่มีตัวนำสายตา เช่น นิ้วชี้ ปลายปากกา เป็นต้น เนื่องจากเวลาที่ตาเราอ่าน แบบไม่มีตัวนำสายตา โดยปกติเราจะกวาดตาแบบสะเปะสะปะ ไม่ต่อเนื่อง ไปที่ประโยคนั้น ทำให้ต้องอ่านกลับไปกลับมา หรือบางทีก็มัวแต่ไปอ่าน วนซ้ำในจุดที่ไม่เข้าใจ แต่ไม่ใช้เนื้อหาที่มีประเด็นสำคัญ และจะเสียเวลาได้อย่างมาก การมีตัวชี้ หรือ ตัวนำสายตา จะทำให้สามารถกวาดสายตา ได้อย่างต่อเนื่องไปในคำทุกคำในประโยค ในรวดเดียว ทำให้ไม่ต้องมาเสียเวลาอ่านซ้ำในข้อมูลที่ไม่สำคัญ โดยที่ใจความสำคัญไม่ตกหล่น
- แรกๆอาจจะไม่ชิน ให้ฝึกแบบใช้นิ้วชี้ ไล่ไปช้าๆ ตามความเร็วที่เราสามารถอ่านเข้าใจได้ตามปกติของเรา ถ้าชินแล้ว ความเร็วก็จะเพิ่มขึ้นเองโดยอัตโนมัติ
- กลยุทธ์การอ่าน คือ กฏ 80/20 คือ ข้อมูลที่เราจะได้จากในหนังสือกว่า 80% มาจากเนื้อหาส่วนสำคัญที่มักมีเพียง 20% ในหนังสือ หมายความว่า นอกจากเนื้อหาหลักที่มี 20% ส่วนที่เหลือจะเป็นเนื้อหาที่ไม่มีความสำคัญมากนัก หากเราอ่านโดยที่พยายามลงรายละเอียดกับเนื้อหาส่วนที่ไม่ใช่ใจความหลัก จะเสียเวลามาก
ดังนั้น เวลาเราอ่าน เราจะใช้เทคนิคการอ่านเร็ว 2 ข้อแรก อย่างเต็มที่ กับเนื้อหาที่ไม่ได้สำคัญ เพื่อให้อ่านเพียงแค่รู้ใจความ แต่ไม่ต้องไปเสียเวลาทำความเข้าใจหรือจดจำข้อมูลนัก และ หากเราอ่านไล่มาจนเจอจุดสำคัญ เราจะลดความเร็วลง(แต่ยังใช้วิธีอ่านแบบ 2 ข้อแรกนะ) เพื่อให้เราสามารถซึมซับและจดจำข้อมูลสำคัญได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะทำให้อ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องใช้ความพยายามมากเกินไป และ ประหยัดเวลาชีวิตได้อย่างมาก
นอกจากนี้ ยังมี เทคนิคที่ทำให้สามารถมีสมาธิในการเรียนหรืออ่านหนังสือได้นานขึ้น
- การจะมีสมาธิอ่านหนังสือได้นานๆ ต้องฝึกฝน เราไม่สามารถเพิ่มการโฟกัส จากไม่เคยอ่าน ไปเป็นอ่านได้หลายๆชั่วโมงในทันที เหมือนการฝึกยกน้ำหนัก เราไม่สามารถยกน้ำหนักมากๆได้ตั้งแต่ทีแรก จะต้องค่อยๆเริ่มจากที่เราพอไหวก่อน การฝึกสมองก็เช่นกัน
- ในการฝึก ให้เริ่มจากการลองอ่านในช่วงเวลาสั้นๆ โดยเริ่มจาก 5 นาที จากนั้นพักไปทำอะไรก็ได้สัก 2-3 นาที
- ถ้าไม่รู้สึกฝืน ก็เพิ่มช่วงเวลาที่อ่านเป็น 10 นาที, 15นาที, 20 นาที, 30นาที ... ไปเรื่อยๆ โดยพัก 2-3 นาทีเช่นเดียวกัน
- ถ้าเริ่มรู้สึกฝืน ก็ฝึกอ่านที่ช่วงเวลานั้นๆ จนรู้สึกเคยชิน สบายๆและไม่ฝืน แล้วจึงเพิ่มเวลาไปอีก 5-10 นาที
- ค่อยๆฝึกและเพิ่มไปเรื่อยๆ จนอ่านได้นาน 1ชม., 2, 3 ..5, 6 ชม. เท่าที่เราต้องการ โดยไม่ต้องพัก
นอกจากเทคนิคการอ่านหนังสือแล้ว ช่องของ Salim Ahmed ก็ยังมีเทคนิคดีๆ อีกมากเลย ที่ใช้ได้จริงๆ เช่น เทคนิคการพิมพ์สัมผัสให้เร็วขึ้น - เวลาพิมพ์ให้นึกเป็นคำ แล้วพิมพ์ทีเดียว ไม่พิมพ์แบบสะกดทีละตัว เป็นต้น เดี๋ยวจะทยอยเอามาบันทึกเก็บไว้อ่านเรื่อยๆ
*เทคนิคในข้อ 1 เอามาใช้กับการอ่าน,ฟัง,พูด,เขียน ภาษาอังกฤษได้ด้วย คือ เวลาอ่านหรือฟัง พยายามฝึกประมวลผล โดยการเข้าใจความหมายไปเลย อย่างน้อยๆ ก็ในส่วนของ "การรับข้อมูล" ส่วนการพูด,เขียน ลองไปฝึกอีกทีนึง
- โดยส่วนตัวเริ่มใช้กับการอ่านและการฟัง แล้วได้ผลมากๆ คือ อ่าน,ฟัง เข้าใจความหมายไปเลย ไม่ต้องมาแปลหรือทวนเป็นคำพูดซ้ำในหัว โดยเฉพาะการฟัง ซึ่งถ้ามานึกคำพูดทวนซ้ำหรือแปลความหมายอีกทีก่อน ก็จะเป็นเหตุให้เราฟังไม่ทัน แม้เราจะรู้คำศัพท์ในประโยคทั้งหมดก็ตาม ส่วนการอ่าน ก็เร็วขึ้นมาก เพราะเข้าใจความหมายได้เลย(เป็นการทำลายกำแพงกั้นเดิม ที่ต้องมาคอยแปลหรืออ่านทวนในหัว)
- ทั้งนี้ อาจต้องพยายามฝึกภาษามาเรื่อยๆ สักระยะหนึ่งก่อนด้วยนะ เพื่อให้มีพื้นฐานและคลังคำศัพท์ในหัวเยอะๆ ทั้งการอ่านบทความหลากหลาย เพื่อให้ได้คำศัพท์หลากหลายรูปแบบ, การเรียนรู้ศัพท์ (โดยฝึกเรียนรู้ศัพท์แบบเปิด dictionary eng to eng นะ), หลักไวยากรณ์(Grammar)
Add new comment