8 ก.พ. 67
- ลำดับความสำคัญของการหาที่นั่งในหอสมุดกลางของมหาลัย
- ที่นั่งที่เหมาะกับกายสรีระศาสตร์(Ergonimic) สำคัญกว่าที่นั่งที่เป็นส่วนตัว ชั้น 1 โดยเฉพาะโซนด้านหลัง ดีที่สุด(โซนขวาฝั่งร้านกาแฟ) เพราะ เก้าอี้และโต๊ะใหม่ แนะนำโซนริมขอบหน้าต่าง ที่เป็นโต๊ะเดี่ยว เพราะ จะไม่เป็นจุดสนใจ
- นั่งด้วยท่านั่งขัดสมาธิ เพราะ เป็นท่านั่งที่ดีที่สุด ช่วยให้เกิดสมาธิได้ง่ายและไม่ง่วง
- สำรวมอินทรีย์ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ อย่าไปเที่ยว ดู ฟัง อย่าไปสนใจคนอื่น หรือสิ่งรอบข้าง สำรวมระวังอยู่กับตัวเอง
- นั่งในที่ ที่ไม่เป็นจุดสนใจ ไม่ต้องตกเป็นเป้าสายตา
- อย่าเชื่อความคิดตัวเอง เพราะ มันจะถูกหรือไม่ถูกก็ได้ เช่น บางทีเราว่าสิ่งที่เราคิดนั้นถูกต้อง แต่จริงๆ มันอาจจะไม่ถูกในอีกเหตุผลหนึ่ง หรือ แม้แต่ความเห็นของคนอื่น ที่เขาว่าดีอาจจะไม่ถูกต้องก็ได้ หรือ ที่เขาว่าไม่ดี มันก็ยังมีอีกหลายเหตุผลที่มันไม่เป็นอย่างที่เขาว่า หรือ บางทีความคิดของเราก็หลอกเราเอง เพราะ เราคิดอย่างหนึ่ง แต่จริงๆมันเป็นอีกอย่างหนึ่ง แสดงว่าความคิดปรุงแต่งของเราเอง เป็นอะไรที่เชื่อไม่ได้ บางทีความคิดของเราเองก็หลอกตัวเองได้
- ความคิดจัดว่าเป็น สังขารขันธ์ คือ เกิดจากการปรุงแต่งของความจำ ให้ดูความเป็นไตรลักษณ์ของสังขาร ว่ามัน เกิดดับ ควบคุมไม่ได้ เป็นตามเหตุปัจจัย แปรปรวนเปลี่ยนแปลง และ อย่าไปให้ค่า หรือ ความสำคัญกับสังขารมากนัก
6 ก.พ. 67
- เวลามีความทุกข์ ให้เจริญสติ พยายามอย่าหนีทุกข์ หรือหาทางแก้ทุกข์ ดับทุกข์ เพราะ มันไม่มีอยู่จริง เดี๋ยวทุกข์ก็เกิดได้ใหม่เรื่อยๆ
30 ม.ค. 67
- เคยติดในหลักความคิดบางอย่าง เช่น การปราถนาพุทธภูมิ เป็นต้น ทำให้เนิ่นช้าในการฝึกพัฒนาเจริญสติ(ไม่ยอมปฏิบัติ ปล่อยเวลาล่วงเลย ด้วยข้ออ้างว่าต้องสั่งสมบารมีต่างๆก่อน แต่จริงๆคือขาดสติ ไม่เจริญสติ) แล้วก็ได้ลองใช้โยนิโสมนสิการ(คิดพิจารณาโดยแยบคายด้วยเหตุผล) จากการอ่านพระไตรปิฎกมาว่า ผู้ที่มีบุญบารมีสั่งสมมามาก อย่างเช่นโพธิสัตว์ เวลาตั้งจิตอธิษฐานใดๆ จะสัมฤทธิ์ผล โดยส่วนตัวเลยลองตั้งจิตอธิษฐานบางอย่างดู ปรากฏว่า ไม่สัมฤทธิ์ผล แสดงว่า การปราถนาพุทธภูมิของเรา ไม่ใช่ความปราถนาที่แท้จริงอันแน่วแน่ไม่แปรเปลี่ยน และอาจยังเป็นความคิดด้วยกิเลส ที่ก่อให้เกิดความเนิ่นช้าในการเจริญสติ(ติดอยู่กับความปราถนานี้มาหลายสิบปี)
- ถามว่าการตั้งความปราถนานี้มีแต่ข้อเสียหรือไม่?
- ก็ไม่เชิงนะ เพราะ ช่วงที่เราคิดว่าจะตั้งใจ เพียรพยายามบางสิ่งบางอย่าง เพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้คน มันจะเกิดพลังขึ้นมาในจิตใจจริงๆ โดยเป็นพลังที่มีลักษณะพิเศษ คือ พลังใจนี้สามารถเกิดขึ้นเองได้เรื่อยๆ แบบไม่มีวันหมด ไม่เหมือนกับแรงบันดาลใจทั่วๆไปที่ต้องคอยกระตุ้นตัวเองเรื่อยๆ ทำให้สามารถทำต่อได้เรื่อยๆ อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
- ก็ได้ข้อคิดอย่างหนึ่งว่า ถ้าเราคิดและทำอะไรเพื่อผู้อื่นจากใจจริง ไม่ใช่การทำเพื่อตัวเอง จะเกิดพลังใจพิเศษบางอย่างขึ้นกับเรา ทำให้เราสามารถทำบางสิ่งที่มหัศจรรย์ให้กับโลกได้
- ก็ไม่เชิงนะ เพราะ ช่วงที่เราคิดว่าจะตั้งใจ เพียรพยายามบางสิ่งบางอย่าง เพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้คน มันจะเกิดพลังขึ้นมาในจิตใจจริงๆ โดยเป็นพลังที่มีลักษณะพิเศษ คือ พลังใจนี้สามารถเกิดขึ้นเองได้เรื่อยๆ แบบไม่มีวันหมด ไม่เหมือนกับแรงบันดาลใจทั่วๆไปที่ต้องคอยกระตุ้นตัวเองเรื่อยๆ ทำให้สามารถทำต่อได้เรื่อยๆ อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
- ได้ข้อคิดอีกอย่างหนึ่ง คือ การอ่านพระไตรปิฎก เป็นอะไรที่ดีมากๆ ทุกคำ มีความหมายลึกซึ้ง มีประโยชน์กับชีวิตมากมาย ควรอ่านทุกคน ไม่จำกัดอายุ การศึกษา เพศ
- ข้อคิดอีกอย่างหนึ่ง คือ พยายามดำรงชีวิตด้วยการคิดพิจารณาโดยแยบคาย ด้วยการคิดพิจารณาด้วยเหตุผล อย่าใช้ศรัทธาอย่างเดียว และที่สำคัญคือ อย่างมงาย
- ถามว่าการตั้งความปราถนานี้มีแต่ข้อเสียหรือไม่?
- ต่อจากนี้ ก็ต้องไปปฏิบัติ ฝึกเจริญสติต่อแล้วล่ะ
29 ม.ค. 67
- เพิ่งรู้ว่า การกินธัญพืชบ่อยๆ อาจทำให้เกิด aflatoxin toxicity ได้
25 ม.ค. 67
- ปัญหาเรื่องการบริหารเวลา
- ไม่ใช่ว่าดูนาฬิกาบ่อยๆ แล้วจะทำให้เราใช้เวลาได้มีประโยชน์มากขึ้น คุ้มค่ามากขึ้น หรือ ช่วยให้เราทำอะไรได้เร็วขึ้นแต่อย่างใด เพราะ หลายๆอย่าง มีช่วงเวลาของมันที่ต้องใช้ ไม่สามารถเร่งตามใจอยากของเราได้ เช่น การอ่านหนังสือทำความเข้าใจตำรา เป็นต้น
- สิ่งสำคัญคือ เราเอาเวลาไปทำอะไรมากกว่า ซึ่งวิธีที่จะแก้ไขปัญหาของ การเอาเวลาไปทำสิ่งไร้สาระ คือ การมีสติรู้ตัว
- เรื่องการอ่านเลข ที่พบอีกอย่างคือ ถึงแม้บางทีจะไม่เข้าใจ 100% แต่ถ้าลองทำโจทย์ไปก่อน จะค่อยๆเข้าใจมากขึ้นได้เอง เราอาจไม่สามารถเข้าใจทุกประเด็นได้ตั้งแต่เริ่มต้นเสียทีเดียว การทำโจทย์เท่านั้นที่จะทำให้เราเก่งขึ้น
- แต่ก่อน ใช้ Mac OS ได้ไม่คล่อง แต่ตอนนี้ใช้คล่องอย่างรวดเร็ว คีย์ลีดที่เคยรู้สึกไม่สะดวก ตอนนี้ก็ไม่มีปัญหาในการใช้งาน เกิดจาก Neuroplasticity ที่ดีกว่า จากการ Fasting แบบ Alternate day fasting หรือเปล่านะ(ดีกว่า Time restricted fasting ปกติ)
24 ม.ค. 67
- มีอยู่แนวคิดหนึ่ง คือ เราจะแสวงหาความสำเร็จอย่างยิ่งไปเพื่ออะไร หรือ จะสร้างนวัตกรรมเพื่อโลกไปเพื่ออะไร ในเมื่อสุดท้ายทุกสิ่งจะถูกลืมเลือนเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดกาล แม้สิ่งเหล่านี้จะจัดว่าเป็นบุญ แต่ก็ยังไม่พ้นการเวียนว่ายตายเกิด ไม่พ้นทุกข์จริงๆอยู่ดี
- ในยุคที่เราได้พบเจอกับคำสอนของพุทธศาสนา เป็นโอกาสสำคัญอย่างยิ่งที่มีไม่มาก ที่เราจะสามารถเรียนรู้ตนเองจนเข้าใจความจริงของ กาย-ใจ จนพ้นทุกข์ เราจึงควรให้ความสำคัญกับการศึกษาเรียนรู้กายใจ มากกว่าการทำประโยชน์ภายนอกอื่นๆ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่ต้องทำประโยชน์ภายนอกอะไร เพียงแต่ควรจะเต็มที่กับการแสวงหาปัญญาภายใน คือ การเรียนรู้ตนเอง ให้ได้มากที่สุดก่อน เพราะ ยุคสมัยที่จะมีคำสอนเพื่อความพ้นทุกข์แบบนี้หาได้ยากยิ่ง ส่วนการทำประโยชน์ภายนอก ก็ให้เพียงพอแค่ การสงเคราะห์ตนเองและผู้อื่นให้อยู่สบายแต่พอสมควร เอาไว้ชาติอื่นๆที่ไม่มีพุทธศาสนาค่อยทำแบบเต็มที่ก็ได้ โดยเอาเวลามาพัฒนาสติ เรียนรู้กาย-ใจ ให้ได้มากที่สุด
22 ม.ค.67
- อ่านหนังสือที่หอสมุดมหาลัย(ใช้สิทธิ์ของศิษย์เก่า) มีสมาธิดีขึ้นมาก ข้อดีคือ มีสิ่งแวดล้อมอำนวยความสะดวกครบครัน มีเครื่องปรับอากาศและฟอกอากาศ มีโต๊ะเก้าอี้ที่นั่งได้สบายทั้งวัน มีตู้น้ำดื่ม เหมาะกับการอ่านหนังสืออย่างมีสมาธิ ทำให้อ่านได้ทั้งวันอย่างเต็มประสิทธิภาพ(Full performance) จากปกติอ่านหนังสือได้วันละ 3 - 4 ชม ที่หอพัก ก็เพิ่มเป็น 8 ชมเต็มๆ ขณะที่นั่งหอสมุดมหาลัย
13 ม.ค. 67
- สาเหตุหนึ่ง ที่ช่วงนี้ทำเลขได้น้อยลง คือ ไม่ค่อยได้ดูลมหายใจ ถ้าช่วงไหนที่ดูลมหายใจบ่อยๆ จะเรียนรู้อะไรได้เร็ว แก้โจทย์เลขได้ดี และ มีไอเดียอะไรใหม่ๆเสมอๆ
12 ม.ค. 67
- จะคุ้มไหมนะ ถ้าจะเสียเงินประมาณ 7หมื่น เพื่อซื้ออุปกรณ์ที่ช่วยให้พัฒนาตนเองได้ง่ายขึ้น และ สร้างผลงานอื่นๆ เพิ่มเติมได้? (ทำงานหาเงิน ทำประโยชน์)
- คุ้ม แต่ประเมินความเสี่ยงด้วย ว่าเงินเราเหลือเท่าไหร่ พร้อมไหมกับการเสียเงิน ถ้ายังไม่พร้อมก็ชะลอไปก่อน หรือ ใช้อุปกรณ์อื่นทดแทนไปก่อน
- ลงทุน ประมาณ 7 หมื่น ซื้อ Macbook pro m1 max ด้วยแนวคิดที่ว่า ขนาดขนส่ง(Delivery) ยังต้องลงทุนซื้อมอเตอร์ไซค์ ราคา 70,000-100,000 บาท เราที่ทำงานด้าน programming ทำไมจึงจะไม่มีอุปกรณ์ที่เหมาะสมล่ะ
- หลังจากที่ซื้อมา พบว่าเป็นอุปกรณ์ประจำตัว ที่ช่วยให้จัดการความรู้ และ เข้าถึงความรู้ได้ดีขึ้นมาก
9 ม.ค. 67
- บางทีถ้าซื้อของ ให้ซื้อแบบมีคุณภาพไปเลย ในระยะยาวจะคุ้มค่ามากกว่า คือ ของไม่มีคุณภาพ มักจะมีอายุการใช้งานสั้น ไม่นานก็ต้องเปลี่ยน เมื่อเสียก่อนเวลาอันควร สุดท้ายก็ต้องซื้อใหม่ และจ่ายเงินเพิ่ม โดยรวมมักจะเสียเท่ากับราคาของที่มีคุณภาพเลย แต่ในระหว่างการใช้งาน เรากลับได้ใช้ของด้อยคุณภาพตลอดอายุการใช้งาน แทนที่จะได้ของมีคุณภาพ โดยที่เสียเงินเท่ากัน นอกจากนี้ ของที่มีคุณภาพ มักจะมีรายละเอียดการผลิต ที่มีความใส่ใจ พิถีพิถันกว่า วัสดุดีกว่า คงทนกว่า อายุการใช้งานมากกว่าหลายเท่า ปลอดภัยกว่า อาจรวมไปถึงรูปลักษณ์ที่ดีกว่า จึงคุ้มค่ากว่ามาก ตลอดอายุการใช้งาน
Comments