- ฟังคลิปของคุณท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา จากคลิปใน youtube ดังนี้
- สิ่งสำคัญที่สุดที่ได้จากคุณท๊อป คือ
- คนเราสามารถพัฒนา และเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ คุณท๊อปเล่าว่า แต่ก่อนเป็นคนที่เกเร ไม่ตั้งใจเรียน แต่พอโตขึ้นสุดท้ายก็กลับมาพยายามอย่างมากในด้านการเรียน และ พัฒนาตนเองอย่างยากลำบากในหลายๆอย่าง จนประสบความสำเร็จ
- แต่ก่อนตอนเด็กๆ แม่ให้เลือกระหว่าง เงิน กับ ขนม คุณท๊อปเลือกขนม
- เคยมีงานวิจัยในเด็กถึงความอดทน ไม่กินขนม ให้รอจนกว่าผู้ใหญ่จะกลับมา คนที่อดทนรอได้มีแนวโน้มจะสำเร็จเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ อาจจะคล้ายๆกับคุณท๊อป แต่คุณท๊อปได้พิสูจน์ว่า ทุกคนเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ไม่ว่าแต่ก่อนจะเป็นคนอย่างไร แม้จะเลือกขนม ก็ประสบความสำเร็จได้ มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำในปัจจุบัน
- คุณท๊อป บอกว่าต้องพยายามขยาย comfort zone ของตัวเองออกไปเรื่อยๆ อะไรที่กลัวให้ทำเพิ่มวันละอย่าง เช่น การพูดต่อหน้าคนเยอะๆ ที่แต่ก่อน คุณท๊อปพูดต่อหน้าคนแค่ไม่กี่ 10 คนก็เคยเครียดจนแทบจะอาเจียน จนในปัจจุบัน ยิ่งพูดต่อหน้าคนเยอะยิ่งสงบและนิ่ง เป็นต้น
- อ่านหนังสือวันละ 12 ชม สมัยช่วงเรียน จนติดเป็นนิสัยจนถึงทุกวันนี้ ก็ทำงานตลอดเวลาจนเป็นเรื่องปกติ
- คุณท๊อปเล่าให้ฟังว่า จากเด็กที่เกเร ไม่เคยอยู่นิ่งได้นาน ต้องพยายามฝึกฝืนตัวเอง หักดิบ ตอนแรกๆก็ทรมานมากๆ แต่พอผ่านไปๆ เริ่มรู้สึกว่าเฉยๆ กลายเป็นความปกติไป ทุกๆอย่างสามารถฝึกได้
- จบ oxford มา
- เลือกที่จะหาประสบการณ์ ไม่ได้เลือกทำงานเงินเดือนสูงๆ
- จากนั้นก็เลือกที่จะทำในสิ่งที่เชื่อ มาเปิดบริษัท Crypto(coin.co.th) ที่ชั้นลอยตึกแถวที่บ้านแถวประตูน้ำ เป็นพนักงานคนเดียวในบริษัท ทำหน้าที่ทุกอย่าง ทั้ง บริหาร บัญชี กฏหมาย ฯลฯ โดนสอบสวนจากรัฐฯอยู่บ่อยๆ ว่าเป็นธุรกิจผิดกฏหมาย แชร์ลูกโซ่ ลำบากอยู่ 6 ปี
- ทะเลาะกับพ่อแม่ที่บ้าน ว่าทำไมไม่หาอาชีพที่มั่นคง รายได้ดีทำ(จบ oxford มา เงินเดือน 6-7หลัก($) อยู่แล้ว)
- คุณท๊อปเล่าให้ฟังว่า โชคดีที่ แม้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะไม่เห็นด้วย แต่ก็ยังปล่อยให้ทำ ไม่ได้ขัดขวางแบบเด็ดขาด ทำให้มี Bitkub เกิดในทุกวันนี้
- ในอีก 3ปีที่ต่อมา เพิ่งจะเป็นที่รู้จักและ สำเร็จเป็น Bitkub, ทั้งๆที่ลำบาก พยายามมาหลายปีไม่มีใครรู้
- มีเงินพอที่จะเกษียณตัวเอง และมีชีวิตที่สุขสบายสุดๆแล้ว ก็ยังคงต่อสู้กับ bitkub ต่อ!!!
- คุณท๊อปบอกว่า ความล้มเหลวกับความสำเร็จ เป็นสิ่งเดียวกัน เพราะ มันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ พัฒนา ซึ่งหลายๆคนเข้าใจผิดว่ามันตรงข้ามกัน ถ้าคุณประสบกับความล้มเหลว คุณมาถูกทางแล้ว
- สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเราสำคัญมาก ถ้ารอบตัวเราเต็มไปด้วยคนเก่ง หรือ ความท้าทาย บีบคั้น จะทำให้เราต้องพัฒนาตนเองโดยอัตโนมัติ แล้วเราจะเก่งขึ้นในที่สุด แต่ถ้าสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา เต็มไปด้วยความสบาย มีแต่คนเรื่อยๆ ใช้ชีวิตไปวันๆ เราจะไม่ถูกบีบคั้นให้ต้องพัฒนาตนเอง และ เราจะถดถอยลงในที่สุด
- ความล้มเหลวก็เป็นหนึ่งในสิ่งแวดล้อมที่ดี จะบีบคั้นให้เราต้องลุกขึ้นมาพัฒนาตนเอง ความล้มเหลวจึงเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับความสำเร็จดังกล่าวมาข้างต้น
- แต่ทั้งนี้ ตัวเราก็เป็นส่วนสำคัญ ว่าจะปล่อยชิล หรือ ใช้โอกาสที่ได้รับจากสิ่งแวดล้อมในการพัฒนาตนเอง
- วิธีดูว่าเราพยายามมากพอหรือยัง คือ ทุกวันนี้ เรายังมีเวลากินข้าวสบายๆอยู่หรือไม่ ถ้ายังกินข้าวสบายๆอยู่ นั่นคือความพยายามของเรากำลังถดถอย แต่ถ้าทุกวันนี้เราอ่านหนังสือหรือทำงานจนแทบไม่มีเวลากินข้าว(แค่เกือบๆ แต่ยังกินครบนะ) หรือ ต้องกินข้าวไปด้วยอ่านหนังสือไปด้วย นั่นคือเรากำลังพยายามอย่างเต็มที่
- แต่มันเป็นเพียงตัวชี้วัดที่ปลายเหตุ ต้องกลับไปตรวจสอบสิ่งแวดล้อมของเรา เช่นว่า มันท้าทายเรามากพอไหม บุคคลรอบข้างเราเป็นพวกขยันหรือขี้เกียจ ตัวเราเองฝึกฝนตนเองมากพอไหม เป็นต้น ไม่ใช่พยายามมาวุ่นวายแก้ไขเรื่องการกินข้าวนะ
- วิธีดูว่าเราพยายามมากพอหรือยัง คือ ทุกวันนี้ เรายังมีเวลากินข้าวสบายๆอยู่หรือไม่ ถ้ายังกินข้าวสบายๆอยู่ นั่นคือความพยายามของเรากำลังถดถอย แต่ถ้าทุกวันนี้เราอ่านหนังสือหรือทำงานจนแทบไม่มีเวลากินข้าว(แค่เกือบๆ แต่ยังกินครบนะ) หรือ ต้องกินข้าวไปด้วยอ่านหนังสือไปด้วย นั่นคือเรากำลังพยายามอย่างเต็มที่
- เรียนรู้ที่จะเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นทักษะที่สำคัญมากๆ ต่อการพัฒนาตนเอง เช่น หา textbook อ่าน เพื่อศึกษาบางวิชาด้วยตนเอง เป็นต้น
- เราต้องเสียสละบางเรื่อง(หรือหลายๆเรื่อง)ในชีวิต เพื่อให้เป้าหมายของเราสำเร็จ เพราะ คนเรามีเวลาจำกัดแค่ 24 ชม ต่อวัน ถ้าเราอยากทุ่มเทกับเรื่องหนึ่งให้ถึงที่สุด เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ด้านอื่นๆในชีวิตหลายๆด้านสมบูรณ์แบบ เช่น ครอบครัว เพื่อน ฯลฯ
- การตั้งเป้าหมายในชีวิต ต้องไม่หลอกตัวเอง ต้องไม่ใช่เป้าหมายที่มาจากคนรอบข้าง เช่น พ่อแม่ กลุ่มเพื่อน เป็นต้น แต่มาจากตัวเราจริงๆ โดยที่หากแม้วันพรุ่งนี้เป็นวันสิ้นโลก เราก็จะยังอยากทำเป้าหมายนั้นๆของเราให้สำเร็จ
- ถ้าเรามุ่งมั่นกับเป้าหมายของเรา เราจะเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตนเองหลายๆอย่างโดยอัตโนมัติ เพื่อไปสู่เป้าหมายนั้น เช่น เปลี่ยนสิ่งแวดล้อม เปลี่ยนสังคม เปลี่ยนชีวิตประจำวัน เป็นต้น
- ไม่มีความสำเร็จชั่วข้ามคืน(ไม่มี overnight success) มีแต่ต้องอดทนๆๆๆ ล้มแล้วลุกๆๆๆๆ(perseverance)
- อย่างไรชีวิตก็ต้องมีแสงปลายอุโมงค์ ไม่มีใครที่ชีวิตจะลงต่ำๆๆๆไปตลอด ทุกความล้มเหลวจะมี bottom up ที่หลังจากนั้นจะดีขึ้นๆ อย่า overthinking เพราะ ความเครียดหลายๆอย่าง จริงๆมาจากการที่เราคิดมากเกินไปเอง
- Don't underestimate the power of asking (คำพูดของ Steve Jobs ก่อนที่จะจากไป)อย่ากลัวที่จะถาม ขอความช่วยเหลือจากคนอื่น เพราะ จริงๆ คนส่วนใหญ่ ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือมากกว่าที่เราคิด และ ถ้าเราสำเร็จแล้วก็อย่าลืมที่จะไปอยู่ใน environment ที่จะมีโอกาสเป็น giver ให้ความช่วยเหลือผู้อื่นด้วย ให้ถอด ego และ ความกังวลของตัวเองออก
- ฟังคลิปคุณท๊อป แล้วได้พลังใจ ให้ยังคงพัฒนาตนเองต่อไป!!!! Salute kub!!!
Add new comment