รู้ว่าชอบทำงานอะไร ก็อาจไม่ได้สำเร็จเสมอไป ถ้าไม่ได้วางแผน มีวินัยให้ดี และคอยตรวจสอบตนเองเสมอ

การที่เรารู้ว่าเราชอบงานอะไร เป็นสิ่งที่ดี การมุ่งเป้าหมายไปในสิ่งที่เราชอบ จะทำให้เราเรียนรู้ได้เร็ว แต่ทั้งนี้ในเรื่องความชอบ หรือไม่ชอบ ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะทำตามอารมณ์โดยไม่มีการวางแผนได้

การไม่วางแผน จะทำให้เราไม่รู้สัดส่วนเวลาในชีวิตของเรา ว่าใช้ไปกับอะไรบ้าง อาจทำให้ใช้เวลาอย่าง ไม่เป็นระบบ ไม่มีประสิทธิภาพ และอาจทำให้ไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้

ปัญหาของเราในตอนนี้ ไม่ได้วางแผนอะไรในการไปสู่เป้าหมายที่ตั้งใจไว้เลย อีกทั้งอาจรวมถึงไม่มีวินัยในการทำตามแผนด้วย

• เป้าหมายแรก คือ สอบให้ติดวิศวะคอม
• สิ่งสำคัญที่ต้องทำ เพื่อไปถึงเป้าหมายแรก คือ อ่านหนังสือเตรียมสอบ

• แผนชีวิต คือ ตัดสิ่งที่เสียเวลาในชีวิต โดยไม่จำเป็น และ ทำแต่สิ่งที่จำเป็นต้องทำ
   

  ตารางชีวิตในปัจจุบัน	สิ่งจะที่ปรับเปลี่ยน
  ตื่น ตั้งตี 5 ทำอะไรไม่รู้ จนถึง 8โมง	-
  8-12 ทำอาหาร กินข้าว ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือ, เล่น social ยุ่ง(เสือก)เรื่องชาวบ้าน, หรือไม่ก็ดู youtube, แส่หา project การกุศลทำ (ทั้งๆชีวิตยังกระท่อนกระแท่น ต้องการเวลาไปอ่านหนังสือ), เขียนบล๊อก -- หายไปครึ่งวันเปล่าๆเลย	-
  12-13 ล้างจานชาม	-
  13-15 อ่านหนังสือ อ่านไปเล่น social ไป	-
  15-20 บลาๆๆ ขี้เกียจนึกแล้วแฮะ	-

จากตารางข้างบน การ list สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งวันทำให้เราเห็นได้ว่า เราเสียเวลาไปกับอะไร แต่ในส่วนของการวางแผน ดูเหมือนว่า ถ้าวางแผนโดยมีเงื่อนไขของเวลามาเกี่ยวข้อง (เช่นว่า อันนี้ ทำกี่โมง หรือ กี่ชั่วโมง) จะทำตามได้ยาก แต่มีไอเดียหนึ่งคือ หากเราเขียนเป็นกฏ หรือแนวทาง หรือ ข้อกำหนดกับตัวเอง อย่างง่ายๆ(simple) ไม่ซับซ้อน โดยไม่มีเงื่อนไขเรื่องเวลามาเกี่ยวข้อง  การเข้าใจ และปฏิบัติตาม จะทำได้ง่ายกว่า การมานั่งคิดว่า 'ชั่วโมงนี้เราจะต้องทำอะไรนะ? แล้วชั่วโมงถัดไปทำอะไรอีกนะ?' ซึ่งจะปฏิบัติตามได้ยากมาก(not practical) และไม่ได้ประสิทธิภาพอีกด้วย วิธีการก็ง่ายๆเลย ดังตารางข้างล่างนี้

จากที่เห็นในตาราง จะเห็นได้ว่า ดูเรียบง่าย(simple) จดจำได้ไม่ยาก แค่ 2 ข้อเท่านั้น!!! แน่นอนว่าจะต้องจดจำใส่ใจ(ไม่ใช่อยู่แค่ที่ปลายนิ้วที่พิมพ์) ไม่ลืม และเข้าใจได้ง่าย และทำตามได้ไม่ยากเลย!!!

*เพิ่มเติม หลังจากที่ลองทำแบบนี้แล้ว พบว่าได้ผลแฮะ ทำตามได้ง่ายขึ้นมาก ใช้เวลาได้เป็นประโยชน์ขึ้นเยอะเลย ที่เหลือคือทำจนเป็นนิสัย และเทคนิคนี้น่าจะเอาไว้ใช้เปลี่ยนนิสัยอะไรได้หลายๆอย่างเลย ตัวอย่างตอนนี้ ก็เริ่มสนุกกับการอ่านหนังสือแล้วได้ความรู้มากขึ้นเรื่อยๆ ทีละนิดๆ และ เริ่มเบื่อและแหยง(มาจากคำว่า รังเกียจ-ขยะแขยง) กับการ เล่น youtube, social network อย่างเรื่อยเปื่อย ทำลายเวลาอันมีค่าของเราไป เอาเวลามาเขียนบล๊อกวิเคราะห์ตัวเองเพิ่มเติมคุ้มกว่าเยอะ

• สิ่งที่น่าสังเกตอีกอย่างหนึ่ง คือ สิ่งสำคัญที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ อาจจะไม่ใช่วินัย หรือ ตารางเวลา หรือ กิจวัตรประจำวัน ที่เราต้องคอยทำตามให้ได้ เพราะ มันค่อนข้างเปราะบาง หากมีปัจจัยภายนอกมารบกวน ทำให้เราทำตามแผนไม่ได้ แม้จะไม่ได้ผิดที่ตัวเรา เราก็เสียกำลังใจอยู่ดี รวมถึงแผน-กำหนดการณ์ยิบย่อย ที่เราวางไว้ก็จะพังทลายไม่เหลือ แต่สิ่งสำคัญที่เราควรเน้น คือ การสร้างนิสัยที่ดี และ การหยุดนิสัยที่ไม่ดี จากการวิเคราะห์ตัวเอง และ ทำข้อกำหนดกับตัวเองอย่างเรียบง่าย ข้างต้น