อย่าใช้ชีวิตโดยให้ความรู้สึกนำ ให้คิดเยอะๆ

ได้สังเกตตนเอง พบว่า ความรู้สึกจะมีผลอย่างมาก ในการตัดสินใจทำสิ่งต่างๆในชีวิตประจำวัน โดยไม่รู้ตัว เช่น

• ความรู้สึก: หลังจากกลับจากการทำงาน รู้สึกอยากพักผ่อนดูหนัง รู้สึกไม่อยากอ่านหนังสือ
  ความจริง: วันนั้นก็ไม่ได้ทำงานหนักจนเหนื่อยแต่อย่างใด
• ความรู้สึก: มีไอเดีย แต่ขี้เกียจบันทึกลงบล๊อก รู้สึกยังไม่พร้อมที่จะเขียนบทความ
  ความจริง: ถ้ารอให้รู้สึกพร้อมด้านสิ่งแวดล้อม อาจลืมบันทึกไอเดียดีๆไปก่อน และคงไม่ได้ทำอะไร
• ความรู้สึก: ขี้เกียจฝึกเปียโน แต่อยากเล่นเกมส์แทน เพราะ สนุกกว่า
  ความจริง: เป็นการฝึกกดตามจังหวะอย่างเหมาะสมไม่ต่างกัน แต่เล่นดนตรีต่อยอดได้มากกว่า

เคยลองพยายามปรับความรู้สึก โดยอาศัยการจัดสิ่งแวดล้อม แต่พบว่า พอมีปัจจัยเข้ามารบกวน แม้เพียงเล็กน้อย ก็ทำให้ความรู้สึกเปลี่ยน และ ไม่สามารถรับมือได้กับปัจจัยทุกรูปแบบอีกมากมาย ที่อาจเกิดขึ้น

ส่วนตัวมองว่า ความรู้สึกมีผลต่อการตัดสินใจมาก เพราะ เป็นวิวัฒนาการเก่า ของสมองส่วนที่เกี่ยวกับอารมณ์(น่าจะ Limbic system) แต่การตัดสินใจด้วยเหตุผล ยังอาจเป็นวิวัฒนาการที่ใหม่ของมนุษย์(น่าจะสมองส่วน Prefrontal cortex) แม้จะดีกว่าสัตว์อื่นๆ แต่ยังไม่สมบูรณ์ จึงยังไม่สามารถมีอิทธิพลเหนือกว่าอารมณ์เท่าไหร่ แต่เชื่อว่าเราสามารถฝึกสมองส่วนนี้ได้

การฝึกสมองส่วนนี้(Prefrontal cortex) ก็น่าจะเป็นการคอยสังเกตความรู้สึก และ ไม่ทำตามความรู้สึกนั้นๆ โดยฝึกไปเรื่อยๆ จนความสามารถในการควบคุมตนเอง(self-control)ดีขึ้นๆ

แต่จะมีวิธีการเร่งให้สมองพัฒนาเร็วขึ้น คือ ทำกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นให้มีการหลั่ง BDNF(Brain derived neurotrophic factor) ซึ่งจะกระตุ้นให้มีการแตกแขนงของใยประสาทมากขึ้นและช่วยคงสภาพไม่ให้มีการฝ่อของใยประสาท ทำให้สมองเรียนรู้สิ่งใหม่ได้เร็วขึ้น การฝึกฝนทักษะต่างๆ จะพัฒนาเร็วขึ้น

โดยกิจกรรมเหล่านี้ได้แก่

• ออกกำลังกาย HIIT และอดอาหารนานกว่า 24-48ชม : โดยส่วนตัว อดต่อเนื่อง 3 วัน 84 ชม (prolonged water fasting) ได้ผลดีมาก เพราะ หลังทำมา 2 ครั้ง ก็เริ่มค่อยๆ อ่านหนังสือได้มากขึ้นๆ แยกความรู้สึกจากเหตุผลได้ชัดเจนขึ้น อารมณ์ความรู้สึกสงบขึ้น(ความกระเพื่อมไปมาลดลง) จนทำให้สามารถสังเกตตนเองได้ชัด และเป็นที่มาของบทความนี้
• ฝึกนั่งสมาธิทุกวัน