บันทึกของบี

บันทึกการเดินทาง บนเส้นทางเดินชีวิต – ของคนธรรมดาคนหนึ่ง

กลับมาฝึกสติเพื่อเรียนรู้ความจริงของกาย-ใจ(รู้ทุกข์)

แต่ก่อนเคยเจริญสติ ฝึกรู้สึกตัวในชีวิตประจำวัน โดยการกลับมาระลึกอยู่กับปัจจุบันขณะ จนเกิดสติได้บ่อยๆ ถี่ๆ จนได้เริ่มเห็นสภาวะความจริง(ไตรลักษณ์)ของกาย-ใจ ที่แปรปรวน เปลี่ยนแปลงเสมอ ไม่มีความเที่ยงแท้ ไม่อยู่ในอำนาจบังคับ โดยได้เห็น กระบวนการของจิตที่เกิดสืบต่อ วนแบบเดิมซ้ำๆ(ทุกข์), เห็นร่างกายที่ไม่เคยอยู่นิ่งในอิริยาบถหนึ่งๆได้นาน ต้องมีการแอบขยับเปลี่ยนอิริยาบถตลอดเวลา เพื่อให้สามารถคงสภาพอยู่ได้โดยไม่ตาย(ทุกข์)

แต่ด้วยความที่จิตยังสั่งสมปัญญาไม่มากพอ แม้จะได้เห็นทุกข์ของความไม่เที่ยง ทนได้ไม่นาน บังคับไม่ได้ มาระดับหนึ่งบ้างแล้ว แต่หลังจากนั้น กลับไม่มีความอดทนพอที่จะเรียนรู้ทุกข์ต่อ เพราะ ไม่อยากเห็นความทุกข์ อยากหนีทุกข์ จึงค่อยๆลดการเจริญสติลง เหลือเพียงแค่การมีสติพอให้อยู่ในร่องในรอยของศีล 5 ศีล8 แต่ที่เหลือก็ใช้ชีวิตแบบหลับหูหลับตา ไม่มีสติ หลงลืมกายใจ

เรียกได้ว่าเป็นการหนีทุกข์ ไม่อยากรับรู้ความจริงมาระยะหนึ่ง(กว่า 10 ปี) แต่ในช่วงที่ผ่านมา ขณะกำลังฟังเทศน์ พระอาจารย์ปราโมทย์​ ปาโมชโช ก็พิจารณาด้วยปัญญาได้ว่า มันเปล่าประโยชน์ที่จะหนีทุกข์ ซึ่งเป็นความจริงของกาย-ใจที่เราเผชิญอยู่แล้ว เราควรกลับมาเรียนรู้ทุกข์(ความจริงของกาย-ใจ) เพราะ ต่อให้เราจะใช้ชีวิตแบบหลับหูหลับตา ไม่มีสติ หลงลืมกายใจ ก็หาไม่พบความสุขแท้จริงแต่อย่างใด และก็ยังต้องเจอทุกข์ในที่สุดอยู่ดี ทั้งยังเป็นทุกข์แบบคนเขลา วนเวียนไม่รู้จบ กลับกัน หากเราลองเรียนรู้ทุกข์ตรงๆ ในสภาวะความเป็นจริง(ไตรลักษณ์)ของกาย-ใจ จนเกิดปัญญา เราก็จะแค่ทุกข์แบบผู้มีปัญญา(ทุกข์กับกาย-ใจที่ยังเหลืออยู่) แต่ไม่ต้องวนเวียนกับความไม่รู้ ที่ไม่รู้จบ

วิธีฝึกสติปัฏฐาน

หลังจากตัดสินใจได้แล้วว่าจะกลับมาฝึกสติอีกครั้ง คำถามต่อไปคือ ฝึกอย่างไร
-> วิธีการฝึก จะฝึกตาม มหาสติปัฏฐานสูตร ซึ่งเปรียบเหมือน Guideline ที่พระพุทธเจ้าให้ไว้อย่างครอบคลุม100% ในการเรียนรู้สภาวะธรรมสำหรับทุกคน โดยให้เริ่มจากหมวดใดก็ได้ ในกาย เวทนา จิต ธรรม ตามแต่ที่ตนเองรู้สึกว่าสามารถเข้าใจได้ง่าย และ ควรนำมาท่องอ่านซ้ำๆทุกวัน (ทุกคำ ทุกประโยค มีความหมาย) เพื่อคอยย้ำเตือนเป็นแนวทางในการปฏิบัติ และ ไม่ให้หลงลืมหรือปฏิบัติผิด

ในสมัยพุทธกาล การจะให้แนวกรรมฐานสำหรับนำไปปฏิบัติ ก็จะให้เป็นบทสวดสำหรับท่องจำและปฏิบัติตาม อย่างเช่นมหาสติปัฏฐานสูตรนี่แหละ ก็เป็นหนึ่งในนั้น

ทั้งนี้ โดยส่วนตัว ก็ยังฝึกนั่งสมาธิในรูปแบบอยู่ เช้าและเย็น ครั้งละอย่างน้อย 15 นาที โดยฝึกตามในอานาปานสติสูตร(pdf) ทุกคำ ทุกประโยค มีความหมาย เช่นกัน

เพิ่มเติม

  • 26Jul พบว่า สติปัฏฐาน หมวดกาย โดยเฉพาะ อิริยาบถ 4(ยืน เดิน นั่ง นอน) สำหรับตนเอง จะเห็นได้ง่ายกว่า(แต่ละคนไม่เหมือนกัน) ส่วนหมวดนามธรรม เช่น หมวดจิต จะค่อนข้าง งง ในหลายๆครั้ง เพราะ ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองเท่าไหร่ ดูเหมือนจะมีหลายๆอย่างผสมกัน ทั้งความคิด ความรู้สึก จนแยกไม่ออก แต่คิดว่าคงจะดูอะไรชัด ในขณะนั้น ก็ดูอันนั้น

Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *