แต่ก่อนเคยเจริญสติ ฝึกรู้สึกตัวในชีวิตประจำวัน โดยการกลับมาระลึกอยู่กับปัจจุบันขณะ จนเกิดสติได้บ่อยๆ ถี่ๆ จนได้เริ่มเห็นสภาวะความจริง(ไตรลักษณ์)ของกาย-ใจ ที่แปรปรวน เปลี่ยนแปลงเสมอ ไม่มีความเที่ยงแท้ ไม่อยู่ในอำนาจบังคับ โดยได้เห็น กระบวนการของจิตที่เกิดสืบต่อ วนแบบเดิมซ้ำๆ(ทุกข์), เห็นร่างกายที่ไม่เคยอยู่นิ่งในอิริยาบถหนึ่งๆได้นาน ต้องมีการแอบขยับเปลี่ยนอิริยาบถตลอดเวลา เพื่อให้สามารถคงสภาพอยู่ได้โดยไม่ตาย(ทุกข์)
แต่ด้วยความที่จิตยังสั่งสมปัญญาไม่มากพอ แม้จะได้เห็นทุกข์ของความไม่เที่ยง ทนได้ไม่นาน บังคับไม่ได้ มาระดับหนึ่งบ้างแล้ว แต่หลังจากนั้น กลับไม่มีความอดทนพอที่จะเรียนรู้ทุกข์ต่อ เพราะ ไม่อยากเห็นความทุกข์ อยากหนีทุกข์ จึงค่อยๆลดการเจริญสติลง เหลือเพียงแค่การมีสติพอให้อยู่ในร่องในรอยของศีล 5 ศีล8 แต่ที่เหลือก็ใช้ชีวิตแบบหลับหูหลับตา ไม่มีสติ หลงลืมกายใจ
เรียกได้ว่าเป็นการหนีทุกข์ ไม่อยากรับรู้ความจริงมาระยะหนึ่ง(กว่า 10 ปี) แต่ในช่วงที่ผ่านมา ขณะกำลังฟังเทศน์ พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชโช ก็พิจารณาด้วยปัญญาได้ว่า มันเปล่าประโยชน์ที่จะหนีทุกข์ ซึ่งเป็นความจริงของกาย-ใจที่เราเผชิญอยู่แล้ว เราควรกลับมาเรียนรู้ทุกข์(ความจริงของกาย-ใจ) เพราะ ต่อให้เราจะใช้ชีวิตแบบหลับหูหลับตา ไม่มีสติ หลงลืมกายใจ ก็หาไม่พบความสุขแท้จริงแต่อย่างใด และก็ยังต้องเจอทุกข์ในที่สุดอยู่ดี ทั้งยังเป็นทุกข์แบบคนเขลา วนเวียนไม่รู้จบ กลับกัน หากเราลองเรียนรู้ทุกข์ตรงๆ ในสภาวะความเป็นจริง(ไตรลักษณ์)ของกาย-ใจ จนเกิดปัญญา เราก็จะแค่ทุกข์แบบผู้มีปัญญา(ทุกข์กับกาย-ใจที่ยังเหลืออยู่) แต่ไม่ต้องวนเวียนกับความไม่รู้ ที่ไม่รู้จบ
วิธีฝึกสติปัฏฐาน
หลังจากตัดสินใจได้แล้วว่าจะกลับมาฝึกสติอีกครั้ง คำถามต่อไปคือ ฝึกอย่างไร
-> วิธีการฝึก จะฝึกตาม มหาสติปัฏฐานสูตร ซึ่งเปรียบเหมือน Guideline ที่พระพุทธเจ้าให้ไว้อย่างครอบคลุม100% ในการเรียนรู้สภาวะธรรมสำหรับทุกคน โดยให้เริ่มจากหมวดใดก็ได้ ในกาย เวทนา จิต ธรรม ตามแต่ที่ตนเองรู้สึกว่าสามารถเข้าใจ และทำตามได้ง่าย โดยควรนำมาท่องอ่านซ้ำๆทุกวัน (ทุกคำ ทุกประโยค มีความหมาย) เพื่อคอยย้ำเตือนเป็นแนวทางในการปฏิบัติ และ ไม่ให้หลงลืมหรือปฏิบัติผิด และอาจฟังเทศน์จากพระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติเพิ่มเติม
ในสมัยพุทธกาล การจะให้แนวกรรมฐานสำหรับนำไปปฏิบัติ ก็จะให้เป็นบทสวดสำหรับท่องจำและปฏิบัติตาม อย่างเช่นมหาสติปัฏฐานสูตรนี่แหละ ก็เป็นหนึ่งในนั้น อาจทะยอยอ่านหรือสวดทุกวัน ทีละ1-2บทย่อยๆ ทุกวัน วนกลับไปมาเรื่อยๆ เพื่อเป็นการย้ำเตือนและ นำร่องความคิดให้เจริญสติในทุกๆวัน
นอกจากนี้ โดยส่วนตัว ก็ยังฝึกนั่งสมาธิในรูปแบบอยู่ เช้าและเย็น ครั้งละอย่างน้อย 15 นาที โดยฝึกตามในอานาปานสติสูตร(pdf) ทุกคำ ทุกประโยค มีความหมาย เช่นกัน
เพิ่มเติม
- 26 Jul พบว่า สติปัฏฐาน หมวดกาย โดยเฉพาะ อิริยาบถ 4(ยืน เดิน นั่ง นอน) สำหรับตนเอง จะเห็นได้ง่ายกว่า(แต่ละคนไม่เหมือนกัน) ส่วนหมวดนามธรรม เช่น หมวดจิต จะค่อนข้าง งง ในหลายๆครั้ง เพราะ ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองเท่าไหร่ ดูเหมือนจะมีหลายๆอย่างผสมกัน ทั้งความคิด ความรู้สึก จนแยกไม่ออก แต่คิดว่าคงจะดูอะไรชัด ในขณะนั้น ก็ดูอันนั้น
- 9 Aug พบว่าเริ่มสามารถมีสติกลับมารู้ตัวได้บ่อยขึ้นในชีวิตประจำวัน
Leave a Reply